รีวิวที่ปัดแก้ม 12 บลัชออน ติดทน ขั้นเทพ ยี่ห้อไหนดีที่สุด

สวัสดีจ้า…สาวๆที่่น่ารักทุกคนวันนี้มุ๊เมี้ยวมีเรื่องบลัชออนมาฝากล่ะ บลัชออนหรือที่ปัดแก้มคำนี้คุ้นๆหูกันบ้างไหมเอ่ย? แล้วทราบไหมคะว่าเป็นเครื่องสำอางใช้สำหรับอะไร แน่นอนว่าสำหรับสาวๆที่เพิ่งหัดแต่งหน้าต้องยังไม่รู้แน่เลย จริงๆเจ้าบลัชออนตัวนี้เป็นไอเท็มแต่งหน้าสุดเด็ดที่ขาดไม่ได้เลยล่ะค่ะ ทำไมน่ะหรอก็เพราะถ้าแต่งหน้าจัดเต็มหรือแม้กระทั้งจะแต่งแบบเป็นธรรมชาติแต่ลืมปัดแก้มด้วยบลัชออนสิ่งที่เกิดคือ หน้าซีดไร้สีเลือดดูเหมือนป่วยไปเลยล่ะค่ะ แล้วถ้าปัดมากเกินไปก็จะดูเหมือนไม่สบายเป็นไข้เป็นเลยล่ะบางคนแอบแซวว่า”แดงเหมือนตูดลิง” 555 ไม่พูดมากดีกว่าค่ะมุ๊เมี้ยวขอแนะนำเพื่อนใหม่ให้รู้จักกันดีกว่านั้นก็คือ บลัชออน มาดูกันดีกว่าว่าเจ้าตัวนี้คืออะไรและทำอะไรได้บ้าง ส่วนใครสนใจรีวิวเจลว่านหางจระเข้ ยี่ห้อไหนดีมาสิทางนี้

บลัชออนคืออะไร?

มุ๊เมี้ยวขออธิบายสั้นๆเพื่อให้สาวๆเข้าใจบลัชออนได้ง่ายขึ้นนะคะ บลัชออนตัวนี้เป็นเครื่องสำอางที่ใช้แต่งแต้มสีสันให้แก้มดูมีเลือดฝาด ใบหน้าสดใสและดูมีสุขภาพดี จึงเป็นไอเท็มแต่งหน้าของเด็ดที่สาวๆจะขาดไม่ได้ แล้วปัดตรงไหนล่ะทั้งแก้มหรือเปล่า? ก็ตรงตัวเลยค่ะใช้ปัดแก้มแต่ไม่ใช่ทั้งแก้มนะคะ ให้ปัดที่โหนกแก้ม ตามที่มุ๊เมี้ยวบอกไว้ข้างต้นว่าถ้าปัดมากไปจะดูเหมือนไม่สบายแดงเหมือนตูดลิงแทนที่จะสวย น่ารัก น่ามอง จะกลายเป็นดับแทน!! ทีนี้เรามาดูประเภทของบลัชออนกันต่อเลยค่ะว่ามีแบบไหนบ้าง

ประเภทของบลัชออน

มุ๊เมี้ยวขอแบ่งชนิดของบลัชออนเป็น 3 ประเภท ซึ่งที่เจอโดยทั่วไปก็จะมี บลัชออนแบบฝุ่น บลัชออนแบบครีม และ บลัชออนแบบเจล แล้วแต่ละตัวต่างกันยังไงตามมาดูกันค่ะ

บลัชออนแบบฝุ่น

ทุกสภาพผิวสามารถใช้ได้ แต่ควรใช้หลังจากลงรองพื้นและแป้ง เพื่อให้ได้สีที่สวยและชัดมากขึ้น นอกจากนี้บลัชออนแบบฝุ่นยังให้ความรู้สึกสบายบางเบาดูไม่แน่นจนเกินไปอีกด้วย แต่มุ๊เมี้ยวขอแนะนำให้ปัดแบบพอดีๆก่อนถ้าอยากเพิ่มค่อยเพิ่มทีหลังจะทำให้แก้มดูมีสีระเรื่อที่เท่ากันและไม่แดงจนเกินไป

บลัชออนแบบครีม

บลัชออนเนื้อครีมตัวนี้ควรใช้หลังรองพื้นแต่แต้มก่อนลงแป้งฝุ่นหรือแป้งพัฟเนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นเนื้อครีมจึงต้องใช้ปลายนิ้วทาแทนแปรง นอกจากนี้บลัชออนเนื้อครีมสภาพหลังทาทำให้แก้มดูสดใส เปล่งปลั่ง ผิวชุ่มชื้น เหมาะกับทุกสภาพผิว ในปัจจุบันมีบลัชออนครีมที่ทำออกมาในรูปแบบแท่งเพื่อให้ใช้งานง่ายด้วยนะ

บลัชออนแบบเจล

บลัชออนแบบเจลเหมาะสำหรับสาวที่มีผิวมันและผิวผสมใช้ทาหลังจากลงรองพื้นแล้วค่อยตามด้วยแป้ง บลัชออนแบบเจลค่อนข้างจะเกลี่ยง่าย ใช้นิ้วเกลี่ยๆวนๆสักพักก็กระจายสวยแล้วค่ะ แถมดูเป็นธรรมชาติด้วยนะ

เห็นบลัชออนมีตั้ง 3 แบบอย่างงี้จะเลือกใช้แบบไหนแล้วแต่ชอบหรือถนัดเลยค่ะ ทีนี้มาถึงเวลาเลือกสีบลัชออนให้เข้ากับสาวๆกันแล้ว มาเลือกดูกันค่ะว่าใช้สีไหนเข้ากับเราที่สุด

วิธีเลือกสีบลัชออน สีแบบไหนที่ใช่คุณ

บลัชออนผิวสองสี
credit image : goodhousekeeping.com

ในที่นี้มุ๊เมี้ยวขอใช้ตัวกำหนดสีของบลัชออนอยู่ 2 ตัวนะคะ นั้นก็คือ สีผิว และสีผม ซึ่ง 2 ปัจจัยนี้มีผลเป็นอย่างมากที่จะทำให้แก้มของสาวๆสวยพร้ิงไม่ดับแน่ๆค่ะ

  • ผมสีอ่อน(โทนน้ำตาล) + ผิวขาว(โทนขาวเหลือง/ขาวอมชมพู)
    ใช้บลัชออนสีชมพูอ่อน
  • ผมสีอ่อน + ผิวเข้ม
    ใช้บลัชออนสีชมพูอมน้ำตาลเหลือง
  • ผมสีดำ + ผิวขาว
    ใช้บลัชออนสีชมพูกุหลาบ
  • ผมสีเข้ม + ผิวเข้ม
    ใช้บลัชออนสีชมพูอมน้ำตาล
  • ผมสีแดง ส้ม หรือน้ำตาลส้ม + ผิวขาว
    ใช้บลัชออนสีพีชอ่อน
  • ผมสีแดง ส้ม หรือน้ำตาลส้ม + ผิวเข้ม
    ใช้บลัชออนสีพีชเข้ม
  • ผมสีดำ + ผิวเข้มมาก
    ใช้บลัชออนสีอิฐ

ฮั่นแน่ แอบเช็คอยู่ใช่ไหมล่ะคะว่าตัวเองเข้าข่ายข้อไหน ^^ อย่าเพิ่งหนีมุ๊เมี้ยวไปไหนนะเพราะมุ๊เมี้ยวยังมีเทคนิคอีกนิดหน่อยที่อยากแชร์ให้สาวๆ อ่านกัน จริงๆแล้วเป็นประสบการณ์โดยตรงของมุ๊เมี้ยวเองแหละค่ะ เรามาดูข้อดีของบลัชออนกันต่อดีกว่า นอกจากจะเป็นที่ปัดแก้มแล้วยังทำอะไรได้อีก

บลัชออนช่วยอะไรได้บ้าง?

  1. ทำให้ใบหน้าดูมีสุขภาพดี สดใส เปล่งปลั่ง
  2. ปัดที่โหนกแก้มทำให้ใบหน้าดูสวยคมยิ่งขึ้น
  3. ใบหน้าดูสว่างใส
  4. ทำให้ใบหน้าดูไม่ซีดเซียว มีชีวิตชีวาเป็นธรรมชาติ
  5. แก้ไขโครงหน้าให้เรียวได้ด้วย
  6. ถ้าใช้บลัชออนที่มีชิมเมอร์ผสมจะทำให้ผิวดูโกลว์มีมิติเปล่งปลั่งเป็นประกาย
  7. ทำให้หน้าดูเด็ก!!

บลัชออนแตกทำไงดี?

 

บลัชออนแตก
credit image : glamour.co.za

ปัญหาโลกแตกมาแล้วค่ะ ซื้อบลัชออนมาราคาตั้งแพงกลับมาถึงบ้านยังไม่ทันจะใช้ หมุนๆสำรวจดูแพคเกจอย่างชื่นชมแต่มือเจ้ากรรมดันปัดตก!!! วินาทีนั้นเหมือนดูหนังสโลโมชั่นที่บลัชออนสุดเลิฟค่อยๆตกลงพื้นอย่างช้าๆ โอ้วแม่เจ้าบลัชออนแตกทําไงดีมุ๊เมี้ยวแทบจะกลั้นร้องไห้ไม่ได้ แต่ดีที่ตั้งสติทันเลยซ่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ถ้าสาวๆคนไหนกำลังมีปัญหาเรื่องบลัชออนแตกอย่าเพิ่งใจเสียไปนะคะมาดูวิธีของมุ๊เมี้ยวกันรับรองได้เลยว่าบลัชออนสุดเลิฟของสาวๆจะกลับมาวิ้งได้เหมือนเดิมค่ะ

เรามาดูอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมกันก่อนดีกว่าค่ะ

  • กระดาษทิชชู่ ขอแบบเหนียวๆหน่อยนะคะ
  • แอลกอฮอล์หัวสเปรย์
  • หากระก้นปุกเครื่องสำอางหรืออุปกรณ์อะไรก็ได้ที่เรียบๆ

มาเริ่มซ่อมกัน!!

  1. นำกระดาษทิชชู่มาซ้อนทับกันประมาณ 2-3 แผ่น แล้วนำมาวางบนหน้าบลัชออนที่แตก
  2. พ่นแอลกอฮอล์ลงบนกระดาษจนเปียกชุ่มและตัวกระดาษแนบกับหน้าบลัชออน
  3. นำนิ้วของเรานี่แหละค่ะกดๆลงไปเพื่อเกลี่ยให้ตัวบลัชออนสม่ำเสมอกัน ในขั้นตอนนี้ถ้าทิชชู่ขาดให้เปลี่ยนใหม่และทำตามข้อ 1-2 ใหม่นะคะ
  4. กดๆไปสักพักถ้ากระดาษไม่ขาดแต่เริ่มไม่เปียกชุ่มแล้วให้พ่นแอลกอฮอล์เพิ่มลงไปจนชุ่มอีกครั้ง
  5. นำกระปุกเครื่องสำอางที่เราเตรียมไว้ก่อนหน้านี้มากดทับ เน้นว่าให้กดหนักๆทับกระดาษไปเลย แต่ห้ามกระแทกนะ ทำแบบนี้สักพักถ้ายังรู้สึกว่าเนื้อบลัชออนยังไม่แน่น และกระดาษเริ่มแห้ง ให้พ่นแอลกอฮอล์ลงไปและกดต่อค่ะ
  6. หลังจากกดๆไปสักพักและรู้สึกว่าแน่นพอแล้วให้เอากระดาษออก แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะได้บลัชออนตลับเดิมกลับมาแล้วเหมือนย้อนเวลากลับไปก่อนแตกเลยค่ะ แต่ขอแนะนำอีกนิดหน่อยว่าให้เปิดตลับทิ้งไว้เพื่อให้แอลกอฮอล์ที่เราพ่นลงไประเหยออกไป เปิดทิ้งไว้จนกว่าจะแห้งค่ะ

ข้อมูลแน่นขนาดนี้แถมมีข้อดีของบลัชออนมาเยอะขนาดนี้คงจะไม่ซื้อไม่ได้แล้ว ว่าแต่สาวๆรู้ไหมคะว่าบลัชออนยี่ห้อไหนดีที่ฮิตและดีที่สุดแล้วที่สาวๆกำลังใช้อยู่ติดรีวิวของมุ๊เมี้ยวหรือเปล่าเอ่ยมาดูกันดีกว่าค่ะ


รีวิว บลัชออน ยี่ห้อไหนดี?

รีวิวบลัชออน

เมื่อพูดถึงเรื่องการแต่งหน้าแล้ว สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสาวๆ มักจะให้ความใส่ใจมากที่สุด ก็คือการปัดบลัชออนให้แก้มดูอมชมพูระเรื่อ และดูสดใสมีชีวิตชีวานั่นเอง ซึ่งวันนี้มุ๊เมี้ยวก็จะมารีวิว 12 บลัชออนยอดนิยม ที่ทั้งถูกและใช้ดีให้เพื่อนๆ ได้ลองใช้กันดู รับรองว่าหากได้ใช้แล้ว จะต้องเกิดความประทับใจและหลงใหลในบลัชออนที่มุ๊เมี้ยวนำมาฝากกันอย่างแน่นอน ว่าแล้วมาดูกันดีกว่าว่า บลัชออนทั้ง 12 ยี่ห้อนี้ มีอะไรบ้าง

Bourjois Blush

บลัชออนติดทน
credit image : bourjois.co.uk

บลัชออนตลับเล็กๆ น่ารัก ที่มีซิมเมอร์ช่วยเพิ่มความเปล่งประกายให้กับผิว ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าเป็นบลัชออนยี่ห้อที่มุ๊เมี้ยวชอบมาก แบบว่าแค่บลัชออนตลับเดียว ก็ทำให้ใบหน้าดูสวยเป็นประกายแบบครบเซ็ต โดยไม่ต้องเติมซิมเมอร์กันเลยทีเดียว อีกทั้งบลัชออนยี่ห้อนี้ก็ให้สีทีติดทนนาน ไม่ต้องเติมบลัชออนบ่อยๆ ตลอดวันอีกด้วย ส่วนราคาก็แค่ตลับละ 400 บาทเท่านั้น รับรองว่าหากได้ใช้แล้วจะต้องโดนใจแน่นอน

Revlon Powder Blush

บรัชออนรีวิว
credit image : revlon.com

บลัชออนยี่ห้อนี้ เป็นยี่ห้อที่หาซื้อได้ง่าย แถมพกพาสะดวก ด้วยดีไซต์ของบลัชออนที่เป็นตลับทรงสี่เหลี่ยม และมีสีสันแบบสีโทนสุภาพ ที่จะทำให้ใบหน้าของคุณดูสวยใสอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย โดยบลัชออนยี่ห้อนี้ จะเป็นบลัชออนแบบเนื้อแมตต์ ปัดง่าย และทำให้ใบหน้าดูเนียนสวยอย่างลงตัวสุดๆสำหรับราคาก็อยู่ที่ประมาณ 400 บาทเช่นกัน สาวๆ คนไหนที่ชอบบลัชออนแบบซิมเมอร์ ก็เลือกแบบแรก แต่หากชอบแบบเนื้อแมตต์ ก็ลองซื้อแบบนี้มาใช้ดูนะ

Essence Silky Touch Blush

บลัชออนรีวิว
credit image : essence.eu

สำหรับบลัชออนยี่ห้อนี้ ก็มีราคาถูกมากแถมมีคุณภาพดีอีกด้วย โดยเนื้อบลัชออนจะเป็นสีอ่อนๆ เมื่อปัดลงบนใบหน้า จะได้สีสันที่สดใสและทำให้แก้มของคุณดูอมชมพูใสๆ แบบสไตล์วัยรุ่นสุดๆ และด้วยดีไซต์ที่เป็นตลับเล็กๆ จึงทำให้พกพาได้สะดวก และดูเก๋เป็นอย่างมาก ส่วนราคาก็อยู่ที่ตลับละ 160 บาทเท่านั้น เพื่อนๆ คนไหนที่มีงบน้อย มุ๊เมี้ยวขอแนะนำบลัชออนยี่ห้อนี้เลย รับรองว่าจะทำให้คุณดูสวยเด่นไม่แพ้บลัชออนราคาแพงเชียวล่ะ

Sleek Blush

บลัชออนยี่ห้อไหนติดทน
credit image : sleekmakeup.com

ยี่ห้อนี้ เป็นบลัชออนที่เพิ่งจะเปิดตัวเข้ามาขายในไทยเราเมื่อไม่นานมานี้เอง ซึ่งก็เป็นบลัชออนอีกตัวที่มุ๊เมี้ยวได้ลองใช้แล้ว รู้สึกจี๊ดมาก ไม่ว่าจะเป็นดีไซต์ที่สวยเก๋ สีสันที่สวยสดใส ช่วยเติมแต่งให้แก้มดูอมชมพูสวย หรือจะเป็นการติดทนนาน ซึ่งก็เป็นคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมของบลัชออนยี่ห้อนี้เลยทีเดียว ส่วนราคาก็ไม่แพงเลย แค่ยี่ห้อละ 350 บาทเท่านั้น อยากสวยใสแบบเป็นธรรมชาติ ในราคาสุดประหยัด ก็ลองซื้อบลัชออนยี่ห้อนี้มาใช้กันดู

Nars

บลัชออนของอะไรดี
credit image : narscosmetics.com

เป็นบลัชออนสัญชาติฝรั่งเศส ที่มีดีไซต์สวยและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีโทนสีให้เลือกหลายโทนสี ทั้งมีความแวววาว ช่วยอัพลุคของสาวๆ ให้ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติและได้ลุคแบบคุณหนูสุดๆ อีกทั้งยังติดทนนาน และช่วยบล็อคความมันบนใบหน้าได้อย่างอยู่หมัดอีกด้วย ใครที่มีปัญหาผิวหน้ามัน ก็หมดกังวลไปได้เลย แถมด้วยความที่สีติดทนมาก จึงสามารถใช้ได้นานและไม่เปลืองบลัชออนเลยล่ะ น่าสนใจใช่ไหมล่ะ สำหรับยี่ห้อนี้ มุ๊เมี้ยวก็ชอบใช้เหมือนกัน ปัดแล้วแก้มสวย โดนใจสุดๆ

Etude House Lovely Cookie Blusher

บลัชออนที่ดีที่สุด
credit image : etudehouse.com

บลัชออนยี่ห้ออีทูดี้ ที่ขายดีที่สุด แถมมีหลายสีและตลับมีดีไซต์ที่สวยเก๋ น่ารักเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นบลัชออนสัญชาติเกาหลีนั่นเอง แน่นอนว่าเครื่องสำอางเกาหลีเนี่ย ใช้ดีทุกประเภท และมีสีสันสดใสไม่ทำให้ผิดหวัง และยังมีพัฟขนฟูนุ่ม สำหรับใช้ปัดบลัชออนแถมมาให้ด้วยนะ แค่ปัดเบาๆ ก็จะทำให้ใบหน้าดูสวยเป๊ะจนใครๆ ก็ต้องประทับใจ อยากปัดแก้มให้ดูสวยใสไม่แพ้บิวตี้บล็อกเกอร์ ก็ลองใช้บลัชออนยี่ห้อนี้กันดูนะจ๊ะ

Mac Cosmetics

บลัชออนยี่ห้อไหนดี
credit image : maccosmetics.com

บลัชออนแมคเป็นยี่ห้อเครื่องสำอาง ที่สาวๆ ต่างก็รู้จักกันดี ทั้งยังมีราคาแพงมากอีกด้วย อาจเรียกได้ว่าเป็นราชาแห่งเครื่องสำอางกันเลยทีเดียว และบลัชออนยี่ห้อ Mac เอง ก็เป็นบลัชออนที่ได้รับการยอมรับจากสาวๆ มากที่สุด ทั้งยังได้รับความนิยมในหมู่ดาราและบิวตี้บล็อกเกอร์อีกด้วย แต่จะมีราคาแพงไปนิด ถ้าอยากสวยก็ต้องยอมลงทุนล่ะนะ ซึ่งมุ๊เมี้ยวเองก็เคยลงทุนซื้อมาไว้ในครอบครองเหมือนกัน ขอบอกเลยว่าใช้ดีมาก และไม่ใช่แค่บลัชออนเท่านั้น แต่เครื่องสำอางตัวอื่นๆ ก็ใช้ดีไม่แพ้กัน แต่ด้วยราคาที่แพงมากนี่แหละ จะให้ซื้อยกเซ็ตก็คงไม่ไหวจริงไหม เอาเป็นว่าลงทุนซื้อมาไว้แค่ตัวสำคัญๆ อย่างบลัชออนก็พอ

Maybelline NY Cheeky Glow

บลัชออนขั้นเทพ
credit image : opsi-l.mengatasi.info

บลัชออนเมเบอลีนตลับเล็กๆ ดีไซต์สวย แต่คุณภาพเจ๋งเวอร์ ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าเพียงแตะบลัชออนนิดเดียว แล้วนำมาปัดให้ทั่วโหนกแก้มอย่างบางเบา ก็จะทำให้ใบหน้าดูสวยอมชมพูระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ แถมช่วยเติมเสน่ห์ ให้คุณดูโดดเด่นและเป็นที่จับตามองของผู้คนที่พบเห็นอีกด้วย สำหรับบลัชออนยี่ห้อนี้ มุ๊เมี้ยวก็ชอบใช้เหมือนกันจ้า เพราะราคาถูกมาก แค่ตลับละ 180 บาทเท่านั้น แบบว่าได้ทั้งความสวยใส ทั้งประหยัดงบสุดๆ ไปเลย สาวๆ คนไหนที่มองหาบลัชออนราคาถูกแต่คุณภาพแจ่ม เลือกบลัชออนยี่ห้อ Maybelline สิ รับรองไม่มีผิดหวัง

Illamasqua

บรัชออนติดทนนาน
credit image : https://www.pinterest.com/pin/127578601922813796/

บลัชออนสัญชาติอังกฤษ ที่มีเนื้อบลัชออนเนียนนุ่มมาก เกลี่ยให้เรียบเนียนไปกับผิวได้อย่างง่ายดาย ซึ่งก็จะทำให้ผิวดูสวยใสเปล่งปลั่งและมีสุขภาพผิวดีเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นบรัชออนติดทนนานตลอดวัน โดยไม่ต้องแต่งแต้มสีบลัชออนลงบนผิวหน้าบ่อยๆ อีกด้วย แบบว่าคุณภาพดีสุดๆ ส่วนราคาก็จะสูงนิด แต่หากเทียบกับคุณภาพที่ได้รับแล้ว ก็ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่าจริงๆ นอกจากนี้ก็มีหลากหลายสีให้เลือกด้วยนะ ลองใช้ดูแล้วเพื่อนๆ จะต้องชอบแน่นอน

Canmake

บลัชออนยี่ห้อไหนติดทน

บลัชออนที่มีดีไซต์น่ารักๆ สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งก็เป็นอีกยี่ห้อที่มุ๊เมี้ยวอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ลองใช้กันดู โดยไม่เพียงแต่คุณภาพของบลัชออนเท่านั้น ที่ทำให้สาวๆ อยากลองใช้ดู แต่ยังรวมถึงแพกเกจจิ้งที่ถูกออกแบบเป็นตลับทรงน่ารัก ดูหวานแหววด้วยสีพาสเทลแสนหวาน เข้ากับลุคของสาวสไตล์น่ารักหวานๆ สุดๆ แถมเมื่อปัดบลัชออนลงบนแก้ม ก็มีกลิตเตอร์วิ้งๆ ที่จะทำให้ใบหน้าดูเปล่งประกายและติดทนนานในระดับหนึ่งอีกด้วย น่าสนใจใช่ไหมล่ะ

Catrice Defining Blush

ที่ปัดแก้มยี่ห้อไหนดี
credit image : nizepluz.com

บลัชออนที่มีเนื้อละเอียดมากและมีสีชัดเจนสุดๆ สามารถแต่งแต้มลงบนแก้ม ให้แก้มมีสีอมชมพูระเรื่ออย่างสวยงาม แถมดูหรูหราด้วยการบรรจุลงในตลับใส หนา และมีความแข็งแรงพอสมควร จึงไม่ต้องกลัวว่าตลับจะหล่นแตกเลยล่ะ แถมบลัชออนยี่ห้อนี้ก็มีราคาถูกมากแค่ตลับละ 150 บาทเท่านั้นเอง ทั้งถูกและดีแบบนี้ห้ามพลาดเลยเชียว

In2It Sheer Shimmer Blush

บลัชออนถูกและดี
credit image : ricedolls.com

บลัชออนราคาถูกๆ สไตล์สาวเกาหลี ที่ขอบอกเลยว่าคุณภาพแจ่มไม่แพ้บลัชออนราคาแพงเลยทีเดียว แถมบลัชออนอินทูอิทยังช่วยจัดการความมันบนใบหน้าได้อย่างอยู่หมัดอีกด้วย แค่ปัดบลัชออนลงบนโหนกแก้วเบาๆ ก็จะทำให้ใบหน้าของคุณดูสวยใสตลอดวัน โดยบลัชออนไม่หลุดลอดออกในระหว่างวันแล้ว อยากให้ใบหน้าดูสวยใสด้วยลุคดิวอี้ แบบเกาหลี บลัชออนยี่ห้อนี้ ก็เป็นตัวเลือกที่จะตอบโจทย์ความต้องการได้ดีสุดๆ โดยราคาก็อยู่ที่ 160 บาทเท่านั้น

และนี่ก็คือบลัชออน 12 ยี่ห้อ ที่มุ๊เมี้ยวอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ลองใช้กันดู รับรองว่าใช้แล้วสวยเป๊ะ แถมราคาก็ไม่แพงอีกด้วย สาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาบลัชออนยี่ห้อโปรด ใช้แล้วสวยเป๊ะโดนใจ แถมติดทนนานตลอดวัน โดยไม่ต้องแต่งเติมบลัชออนลงบนใบหน้าบ่อยๆ เลือกใช้บลัชออนทั้ง 12 ยี่ห้อนี้ดู รับรองว่าถูกใจแน่นอน