วิธีการเลือกสีลิปสติกและทาลิปสติกให้เข้ากับสีผิว
สำหรับวิธีการเลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิวอย่างเหมาะสมนั้นแม้สาว ๆ ส่วนใหญ่ที่แต่งหน้าเองเป็นประจำจะทราบดีว่าควรเลือกใช้สีลิปสติกอย่างไร แต่ใครจะรู้ว่ายังมีสาว ๆ อีกไม่น้อย โดยเฉพาะมือใหม่หัดแต่งหน้า ยังเลือกใช้ลิปสติกไม่เป็น ดังนั้น ใครยังเลือกลิปสติกไม่เป็น ลองอ่านเทคนิคง่าย ๆ ที่มุ๊เมี้ยวนำมาฝากต่อไปนี้ ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี
เนื้อหาในหน้าเพจนี้
เคล็ดไม่ลับ เลือกลิปสติกอย่างไรให้เหมาะสม
เลือกให้เหมาะสมกับสีผิว
ข้อนี้สำคัญมากที่สุดสำหรับการเลือกใช้ลิปสติก เพราะต่อให้ลิปสติกสีสวยแค่ไหน แต่ถ้าทาแล้วไม่เข้ากับสีผิว แบบนี้คงไม่เวิร์ค ดังนั้นการเลือกสีลิปสติกให้เข้ากับสีผิวจึงสำคัญที่สุด เรามาดูผิวแต่ละประเภทดีกว่าว่าเหมาะใช้ลิปเฉดสีไหนดี
สาวผิวขาว
สีลิปสติกที่เหมาะสม ได้แก่ ทุกเฉดสี โดยเฉพาะโทนสีอ่อน อย่างสีชมพู สีส้มหรือสีน้ำตาลอ่อน เป็นลิปสติกที่ควรมีทาแล้วสวยมาก ๆ ส่วนสีโทนเย็นอย่างสีม่วงอ่อนก็สวยไม่ใช่เล่น ซึ่งหากใครอยากร้อนแรงและเซ็กซี่ จะเลือกลิปสติกสีโทนร้อนอย่างสีแดง ก็สวยเปรี้ยวได้อีก
สาวผิวเหลือง
สีลิปสติกที่เหมาะสม ได้แก่ สีแดง สีชมพูเข้มและสีโทนอุ่น บางคนอาจทาทับด้วยกลอสใส เพราะเฉดสีเหล่านี้จะช่วยปรับให้ใบหน้าสาว ๆ ผิวเหลืองดูสว่างใสและสดชื่นขึ้น ไม่ซีดเซียวและดูเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวา
สาวผิวสองสี
สีลิปสติกที่เหมาะสม ได้แก่ สีส้ม สีนู้ดแบบผสมชิมเมอร์ สีชมพูกลีบกุหลาบหรือสีเฉดเบอร์รี (แดงอมม่วง) เพราะเฉดสีเหล่านี้จะช่วยขับผิว ให้สาวผิวสองสีดูสวยเด่นและมีเสน่ห์ แต่มุ๊เมี้ยวขอแนะนำนะคะว่า ไม่ควรเลือกโทนสีเข้มจนเกินไป เพราะจะทำให้ใบหน้าดูคล้ำลง
สาวผิวเข้ม
สีลิปสติกที่เหมาะสม ได้แก่ เฉดสีที่มีส่วนผสมของสีน้ำตาล อย่างเช่น สีชมพูนู้ด สีส้มอิฐ สีม่วง และสีแดงเชอร์รี จะทำให้ผิวหน้าสว่างใสยิ่งขึ้นค่ะ
เลือกให้เหมาะสมกับเวลาและโอกาส
การเลือกสีลิปสติกให้เหมาะสมกับโอกาสก็สำคัญไม่แพ้กัน สำหรับเวลากลางวัน มุ๊เมี้ยวขอแนะนำให้สาว ๆ เลือกใช้ลิปสติกเนื้อครีมที่มีเฉดสีอุ่น ไม่เน้นฉูดฉาดหรือเข้ม ส่วนเวลากลางคืนจัดเต็มได้ตามต้องการ แต่อย่าลืมที่มุ๊เมี้ยวแนะนำนะคะ เรื่องของสีผิวกับเฉดสีลิปสติก เพราะถึงจะให้จัดเต็มได้ แต่สาว ๆ ก็ต้องเลือกสีที่แจ่มอย่างเหมาะสมกับสีผิวของตัวเองด้วยค่ะ
วิธีง่ายๆ ทาลิปสติกให้สวย ติดทนจนใครก็ต้องทัก
ได้รู้จักเคล็ดลับการเลือกลิปสติกไปแล้ว คราวนี้มุ๊เมี้ยวจะมาแนะนำวิธีทาลิปสติกให้ติดทนนานตลอดทั้งวัน ซึ่งหากใครทำตาม รับรองว่าคุณจะทาลิปสติกได้สวยจนใครเห็นก็ต้องทักอย่างแน่นอน
เพิ่มความเรียบเนียนให้ริมฝีปาก
สำหรับวิธีการจัดการกับปัญหานี้สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้ lip scrub ช่วยขัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออก ริมฝีปากจะเรียบเนียนขึ้น ลดความแห้งกร้าน เป็นขุยและเพิ่มความชุ่มชื่น ซึ่งหากใครไม่เตรียมริมฝีปากให้พร้อมก่อนทาลิปสติก อาจทำให้ทาแล้วเห็นผิวเป็นขุย เห็นรอยแตกและแห้งของริมฝีปากได้
เพิ่มความเด่นชัดด้วยรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์
การใช้รองพื้นตบทับหรือทาคอนซีลเลอร์เบา ๆ จะช่วยให้ริมฝีปากหลังจากทาลิปสติกดูเด่นชัดขึ้นและเห็นเนื้อสีชัดเจน เพราะรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ช่วยกลบทับสีเดิมของริมฝีปากนั่นเอง
ใช้ดินสอเขียนขอบปากเพิ่มความคมชัด
การเขียนขอบปากก่อนทาลิปสติกจะช่วยเน้นให้เส้นขอบปากชัดเจน คงรูปสวยงาม เพียงแค่เขียนขอบริมฝีปากด้วยดินสอเขียนขอบปากที่มีสีใกล้เคียงกับสีลิปสติก เท่านี้ปากก็ดูสวยอิ่มมากขึ้นแล้ว
ทาลิปสติกตามขั้นตอนต่อไปนี้
มาถึงขั้นตอนสำคัญคือการทาลิปสติกแล้ว หากใครอยากปากสวยเป๊ะ ต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ทาลิปสติกบริเวณขอบริมฝีปากก่อน
- ทาลิปสติกให้ทั่วริมฝีปาก พร้อมเกลี่ยให้ดูเนื้อสีเรียบเนียนและสม่ำเสมอ
- เก็บรอยลิปสติกที่เลอะและเลยขอบริมฝีปากให้เรียบร้อย
กระดาษทิชชูช่วยให้สีติดทนนาน
สาว ๆ บางคนอาจไม่เคยรู้ว่า การใช้กระดาษทิชชูช่วยให้สีลิปสติกติดทนนานขึ้นได้ เพียงแค่นำแป้งฝุ่นปัดเบาๆ ผ่านกระดาษทิชชูหลังจากวางกระดาษทิชชูลงบนริมฝีปากแล้ว จะช่วยให้ลิปสติกอยู่ตัวนานมากขึ้นและติดทนนานได้ตลอดวัน
ทาลิปสติกซ้ำอีกครั้ง
ขั้นตอนสุดท้ายนี้คือการทาลิปสติกซ้ำอีกให้ทั่ว จะช่วยให้สาว ๆ ดูสวยเป๊ะ ตลอดทั้งวัน จนใครเห็นก็ต้องทักอย่างแน่นอน
ขจัดคราบลิปสติกอย่างง่ายๆ เปื้อนตรงไหนก็เอาอยู่
หมดปัญหาการเลือกใช้ลิปสติกกันไปแล้ว คราวนี้มุ๊เมี้ยวจะพาสาว ๆ มารู้จักกับวิธีขจัดคราบลิปสติกเปื้อนเสื้อผ้าหรือสิ่งของต่าง ๆ เพราะปัญหาเหล่านี้ทำให้สาว ๆ บางคนต้องกุมขมับกันเลยใช่ไหมล่ะ ดังนั้น หากใครเคยเจอปัญหาลิปสติกเปื้อนแล้วจัดการไม่ได้ วิธีการต่อไปนี้เอาอยู่
ลิปสติกเปื้อนผ้าที่ซักล้างไม่ได้
ในกรณีที่ลิปสติกเปื้อนผ้าที่ไม่สามารถซักล้างได้ อย่างเช่น ผ้าเรยอน ผ้าขนสัตว์ พรมเส้นใยสังเคราะห์ ฯลฯ วิธีการจัดการเพียงแค่ใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำยาซักผ้าเช็ดบริเวณที่เปื้อนในลักษณะเป็นวงกลม จากนั้นป้ายน้ำยาขจัดคราบจนทั่วแล้วทิ้งไว้สักพัก โดยในขั้นตอนต่อมาให้เช็ดคราบเปื้อนจนหมดด้วยฟองน้ำชุบน้ำอุ่น บิดให้หมาด เท่านี้ก็เรียบร้อย ซึ่งหากใครจัดการด้วยวิธีนี้แล้วไม่หาย ให้ใช้แอมโมเนีย 1-2 หยดหรือน้ำส้มสายชูกลั่นบริสุทธิ์หยดลงไป แล้วใช้ฟองน้ำชุบน้ำบิดหมาดมาเช็ดทำความสะอาดอีกรอบ
ลิปสติกเปื้อนผ้าที่สามารถซักล้างได้
สำหรับผ้าที่สามารถซักล้างได้ ให้นำไปซักกับน้ำยาขจัดคราบสูตรธรรมดา แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ปัญหาก็จะหมดไป ซึ่งหากใครพบว่ารอยคราบยังมีหลงเหลืออยู่ ให้นำผ้าแช่ในน้ำยาขจัดคราบชนิดผสมเอนไซม์ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำไปซักตามปกติ เท่านี้ก็เรียบร้อย
ลิปสติกเปื้อนวัสดุเนื้อแข็ง
แม้จะมีโอกาสน้อยที่ปัญหานี้จะเกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้ว เราก็มีวิธีจัดการเช่นกัน เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดทำความสะอาดปัญหาก็จะหมดไป ซึ่งหากพบว่ายังมีรอยคราบเหลือยู่ ให้ใช้แอมโมเนียหยดลงบริเวณที่มีคราบ 2 – 3 หยด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด คราบที่เคยกวนใจก็ไม่เหลือร่อยรอยให้เห็นอีกต่อไป
ลิปสติกเปื้อนหินชนิดต่าง ๆ
สำหรับกรณีนี้คือลิปสติกอาจเปื้อนเครื่องประดับ วิธีการจัดการให้นำหินหรือเครื่องประดับแช่ลงในรับบิ้งแอลกอฮอล์ 1 ถ้วยตวง ที่ผสมกับแอมโมเนีย 2-3 หยด คราบเปื้อนจะหลุดลอก ซึ่งหากคราบเปื้อนยังตกค้างอยู่ให้ใช้ผงซักฟอกผสมกับน้ำยาฟอกขาวขัดเบา ๆ คราบที่เคยติดแน่นไม่มีทางหลงเหลือ
ลิปสติกเปื้อนพื้น
สำหรับวิธีจัดการลิปสติกเปื้อนพื้น สามารถจัดการได้ง่าย ๆ เพียงแค่นำแอมโมเนียประมาณ 2-3 หยดผสมน้ำอุ่นราดบนพื้นที่เปื้อน แล้วใช้แปรงขัดพลาสติกทำความสะอาดเบา ๆ เท่านี้ก็เรียบร้อย
ลิปสติกเปื้อนหนังและหนังกลับเนื้อนิ่ม
ในกรณีนี้อาจมีขั้นตอนในการจัดการที่ยุ่งยากสักนิด เพราะต้องขูดคราบลิปสติกออกก่อน จากนั้นนำสบู่ตีฟองในน้ำอุ่นเช็ดคราบด้วยผ้า หากคราบไม่หายให้โรยแป้งข้าวโพดลงบนคราบ แล้วทิ้งไว้ จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบสกปรกทุกอย่างออกอีกครั้ง ถ้าคราบถูกกำจัดออกไปเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำ แต่หากคราบยังเหลืออยู่ จำเป็นต้องทำซ้ำจนกว่าคราบจะหายไป
ได้ทำความรู้จักวิธีการทาและการกำจัดคราบแบบครบวงจรขนาดนี้ คงช่วยให้สาว ๆ ทาลิปสติกได้อย่างมั่นใจแน่นอนแถมหายกังวลเรื่องลิปสติกเลอะด้วย ซึ่งมุ๊เมี้ยวเชื่อว่าข้อมูลที่มุ๊เมี้ยวนำมาฝากทั้งหมดนี้ จะช่วยให้สาว ๆ ใช้ลิปสติกได้อย่างมีความสุขมากขึ้นจนถึงมากที่สุดอย่างแน่นอน