นิทาน

นิทานอีสป กระต่ายกับเต่า ความประมาทและความพยายาม

นิทานอีสป กระต่ายกับเต่าพูดถึงเรื่องของเต่าที่เป็นสัตว์เชื่องช้า ยิ่งเทียบกับกระต่ายที่เป็นสัตว์ว่องไวแล้ว คงเทียบกันไม่ติด มาดูกันว่าถ้าทั้งสองแข่งกันใครจะชนะ

ณ ป่าแห่งหนึ่งมีสัตว์มากมายอาศัยอยู่ แต่มีกระต่างตัวหนึ่ง มันทนงตัวว่าตนว่องไว มันมักจะพูดจาดูถูกและทำท่าทางล้อเลียนเต่าต่าง ๆ นานาว่าเต่านั้นเดินช้าอืดอาด มันเยาะเย้ยและหัวเราะเต่าอย่างสนุกสนาน ฝ่ายเจ้าเต่าจึงพูดขึ้นว่า

“แม้ข้าจะดูเชื่องช้าและขาสั้น แต่เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าว่องไวแล้วข้าจะชนะเจ้าไม่ได้ เราลองมาแข่งกันสิ ข้าจะเอาชนะเจ้าให้ได้ ”เต่าพูดด้วยความเจ็บใจที่โดนกระต่ายล้อ

เมื่อกระต่ายได้ยินดังนั้น มันก็ตอบตกลง และคิดในใจว่า เต่าไม่มีทางแข่งชนะมันได้แน่นอน เรื่องกระต่ายและเต่าจะแข่งกันเป็นข่าวดังที่ลือกันไปทั้งป่า เมื่อถึงกำหนดวันแข่งขันสัตว์น้อยใหญ่ต่างรวมตัวกันเพื่อดูการแข่งขันของทั้งคู่ โดยมีสุนัขจิ้งจอกทำหน้าที่เป็นกรรมการคอยตัดสิน

เมื่อถึงเวลาแข่ง ทั้งคู่อยู่ในสุดเส้นสตาร์ทเดียวกัน และเริ่มออกตัวพร้อมกัน เจ้าเต่าค่อย ๆ ก้าวขาสั้น ๆ ของมันอย่างเชื่องช้า ในขณะที่กระต่ายออกตัววิ่งไปอย่างรวดเร็ว ถึงกระนั้นก็ดี เจ้าเต่าก็เพียรก้าวเท้าช้า ๆ อย่างสม่ำเสมอไม่หยุดพัก

ส่วนกระต่ายเมื่อมันวิ่งนำไปไกลจนมาถึงป่าละเมาะที่ไม่มีผู้คน มันจึงคิดว่าคงอีกนานกว่าที่เต่าจะเดินมาถึง

“ต่อให้เรานอนพักสักงีบ ตื่นมาก็ยังวิ่งนำแซงเจ้าเต่าอยู่ดี นี่หลับไปตื่นนึงเต่าก็คงยังมาไม่ถึงหรอกน่า ”

คิดได้ดังนั้นมันจึงเดินไปที่ร่มไม้แล้วล้มตัวลงนอนหลับไป เมื่อเวลาผ่านไปจนพลบค่ำ กระต่ายสะดุ้งตื่นขึ้นก็ต้องตกใจว่าพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำแล้ว มันจึงออกวิ่งแบบไม่คิดชีวิต แต่เมื่อมาจนถึงเส้นชัยก็พบว่า เจ้าเต่าได้เข้าสู่เส้นชัยไปแล้ว

นิทานอีสปเรื่องกระต่ายกับเต่านั้นให้คติข้อคิดสอนใจเราว่า เต่านั้นก็เปรียบได้กับคนที่พากเพียรบากบั่นไม่ยอมแพ้ สักวันความสำเร็จก็จะเป็นของคนเช่นเต่า แต่กระต่ายเปรียบได้กับคนที่ชะล่าใจ เหลวไหลและสำคัญตนผิดจนไม่สามารถประสบความสำเร็จดังที่ตั้งใจได้ มาอ่านนิทานอีสป ลมกับดวงอาทิตย์กันต่อ

jirawatisme

Mumeaw คือกลุ่มผู้ที่มีใจรักในการเดินทาง ผจญภัย พบเจอกับสิ่งใหม่ๆรอบตัวบนโลกอันกว้างใหญ่ เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอสิ่งสวยงามที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่มากยิ่งขึ้นในทุกๆด้าน