นิทานอีสป นักเดินทางกับถุงเงิน สอนเรื่องความมีน้ำใจ
นิทานอีสปเรื่องนักเดินทางกับถุงเงินเป็นเรื่องที่ควรอ่านมาก เมื่อบางครั้งโชคดีที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็อาจจะกลับกลายเป็นโชคร้ายได้ มาดูตัวอย่างจากชายนักเดินทางสองคนนี้กัน
มีชายสองคนเป็นเพื่อนกัน เขากำลังเดินทางร่วมกันเพื่อไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ในระหว่างทางนั้นชายคนที่หนึ่งได้พบเข้ากับถุงเงินถุงหนึ่ง เมื่อก้มลงเก็บก็พบว่าถุงเงินนั้นหนักทีเดียว
เขาจึงพูดกับชายคนที่สองว่า
“แหม ข้านี่ช่างโชคดีเสียจริงที่เก็บถุงเงินถุงนี้ได้ ดูจากน้ำหนักที่ไม่เบาของถุงเงินนี้ ท่าทางข้างในคงจะมีทองอยู่มากมายอย่างแน่นอน ”
ชายคนที่สองเมื่อได้ยินก็พูดท้วงขึ้นว่า
“ เจ้าอย่าพูดว่า เจ้าพบถุงเงินนั้นสิ เจ้าควรจะพูดว่าเราพบถุงเงินนี้ เพราะเราเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกัน ควรจะร่วมกันเผชิญและแบ่งปันทั้งโชคดีและโชคร้ายระหว่างทางด้วยกัน ”
ชายคนแรกได้ยินก็ตอบกลับด้วยเสียงที่เกรี้ยวกราดว่า
“ ไม่เด็ดขาด ข้าเป็นคนพบถุงเงินนี้คนเดียว ถุงเงินนี้ก็ต้องเป็นของข้าคนเดียวสิ”
สิ้นเสียงของชายคนแรก ก็มีเสียงตะโกนดังมาจากข้างหลังของเขาทั้งสองว่า
“ หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้หัวขโมย “”
เมื่อทั้งสองหันไปก็เห็นกลุ่มชาวบ้านกลุ่มใหญ่ที่เดินปรี่มาทางพวกเขา พร้อมกับไม้ยาว กระบอง และอาวุธต่าง ๆ พวกเขาคือชาวบ้านแถวนี้ที่กำลังตามหาหัวขโมยที่ขโมยเงินของหมู่บ้านไปนั่นเอง ชายคนแรกที่พบถุงเงินตกใจมากจนแทบสิ้นสติ ร้องออกมาว่า
“ พวกเราตายแน่แล้ว ถ้าคนพวกนั้นพบว่าพวกเราพบถุงเงินนี้ละก็คงจะต้องแย่แน่ ๆ ”
ชายคนที่สองได้ยินก็ท้วงขึ้นอีกด้วยความโมโหว่า
“ตอนที่เจ้าพบถุงเงิน เจ้าไม่ยอมใช้คำว่าเรา เพราะไม่อยากให้ข้ามีส่วนแบ่งในเงินถุงนี้ มาตอนนี้เจ้าก็ไม่ควรใช้คำว่าเราเพราะคนที่พบถุงเงินและกำลังตกอยู่ในฐานะลำบากคือเจ้าต่างหากไม่ใช่ข้า ”
จากนิทานอีสปเรื่องนักเดินทางกับถุงเงินนี้ เป็นสิ่งย้ำเตือนใจได้ว่า เมื่อเราไม่แบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับใคร ก็อย่าหวังว่าเมื่อเราต้องพบกับความยากลำบาก จะมีใครที่ร่วมทุกข์ไปกับเราด้วย อ่านนิทานอีสป แกะกับหมู