นิทานสำหรับทารก สั้นๆ อ่านง่าย แต่ให้ผลดีมาก
นิทานสำหรับทารก สั้นๆ เรื่องราวเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถทำท่าทางและอารมณ์ตามเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก ลูกน้อยสัมผัสได้อย่างแน่นอน
วัยทารกก็คือเด็กแรกเกิดไปจนถึง 1 ปี นับเป็นวัยที่มีความมหัศจรรย์ เป็นช่วงเวลาที่เซลล์สมองของคนเราเติบโตเร็วที่สุด สมองของเราในวัยแรกเกิดไปจนถึง 3 ขวบนั้น จะจดจำและเรียนรู้ได้เร็ว เซลล์สมองมีการแบ่งตัวเติบโตอยู่ตลอดเวลาทุกๆ วินาที นับเป็นช่วงนาทีทองของชีวิตที่คุณพ่อคุณแม่จะเสริมสร้างลูกรักได้มากที่สุดในทุกๆ ด้าน และการอ่านนิทานก็เป็นอีกวิธีที่จะเสริมสร้างเด็กในวัยทารกได้ ทั้งช่วยพัฒนาการทางสมอง และอารมณ์จิตใจด้วย
เมื่อคุณพ่อคุณแม่คิดจะเล่านิทานให้กับลูกในวัยทารกฟัง เราอาจจะฃไม่แน่ใจว่าหนูน้อยจะเข้าใจ หรือฟังรู้เรื่องในเนื้อหาที่เล่าให้ฟังไหม แต่ในความจริงแล้วเด็กทารกรับข้อมูล สังเกตตามและจดจำทุกอย่างเอาไว้ในสมองน้อยๆ ของพวกเขา รอเพียงวันที่จะพรั่งพรูออกมาเมื่อเติบโตพร้อมจะพูดและแสดงออกได้ ดังนั้นการเล่านิทานก็เป็นทั้งช่วงเวลาที่ได้สานสายใยร่วมกับลูกรัก เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ทางลัดให้ได้เรียนรู้ และยังทำให้เด็กๆ สนุกสนานอารมณ์ดี เพลิดเพลินด้วย ด้วยวัยที่ยังเป็นทารกการเล่านิทานให้เด็กในวัยนี้จะต้องอาศัยเทคนิคในการเล่า และเทคนิคในการเล่าให้เข้าใจง่ายมากขึ้น มีวิธีง่ายๆ ก็คือ
ทำเสียงสูงเสียงต่ำตามเนื้อเรื่อง
เสียงสูงต่ำตามเนื้อเรื่องจะช่วยให้ทารกเข้าใจถึงอารมณ์ของเรื่องราว ผ่านความรู้สึกที่เราถ่ายทอดตามเสียงสูงต่ำและกระตุ้นให้ทารกเกิดความสนใจ สนุกตื่นเต้น ร่าเริงตามนิทานที่เล่าด้วย
พากษ์เสียงเล็กเสียงใหญ่ตามตัวละครต่างๆ
นอกจากเสียงสูงเสียงต่ำแล้ว การทำเสียงเล็กเสียงใหญ่ตามบุคลิกของตัวละครในนิทาน เช่นเสียงของสัตว์ชนิดที่ตัวเล็ก สัตว์ตัวใหญ่ สัตว์เจ้าเล่ห์ สัตว์ซื่อๆ คนแก่ เด็ก ด้วยการทำเสียงแบบนี้จะช่วยทำให้เด็กน้อยในวัยทารกจินตนาการตามได้ไม่มากก็น้อย และทำให้เรื่องราวน่าติดตามมากขึ้น ช่วยพัฒนาสมองและความคิดของวัยทารกได้อย่างดี
ทำท่าทางและแสดงสีหน้าตามเรื่องราวในนิทาน
ลูกวัยทารกจะชอบจ้องหน้าของคุณพ่อคุณแม่ และสังเกตรับรู้การแสดงสีหน้าของคุณพ่อคุณแม่และคนรอบข้างอยู่แล้ว เมื่อเราแสดงสีหน้าเวลาที่เล่านิทาน ลูกน้อยก็จะเข้าใจเรื่องราวตามสีหน้าของเราด้วยเช่นกัน
จะเลือกนิทานที่เหมาะกับเด็กในวัยทารกได้อย่างไร
วิธีเลือกนิทานให้เหมาะกับวัยทารกมีเคล็ดลับอยู่ 3 ประการด้วยกันก็คือ
เป็นเรื่องราวสั้นๆ
เลือกเรื่องที่สั้นๆ จะดีกว่าเรื่องยาว ลูกจะมีช่วงเวลาสนใจกับเรื่องที่เล่าเพียงสั้นๆ ถ้าเล่าเรื่องยาว นานเกินไปเด็กทารกอาจจะรู้สึกเครียดได้
มีเนื้อหาง่ายๆ ไม่ซับซ้อน
นิทานที่มีเนื้อหาง่ายๆ ก็สร้างความสนุกและตื่นเต้นให้เด็กในวัยนี้ และยังทำให้ลูกรักเข้าใจได้ง่ายด้วย เช่นเรื่องที่มีสิ่งของ สัตว์ ที่อยู่ใกล้ตัว เล่าเป็นประโยคสั้นๆ ง่ายๆ หรือใช้คำคล้องจองลูกจะจดจำได้
เรื่องราวไม่เศร้า ไม่รุนแรง
ไม่ควรเลือกเรื่องที่มีเรื่องราวรุนแรง หรือเรื่องที่เศร้า เพราะเวลาเล่าเราต้องแสดงสีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียงลงไป เด็กน้อยก็จะรู้สึกเศร้าตามและอารมณ์ไม่ดี เด็กในวัยนี้ควรจะมีอารมณ์ที่ดีร่าเริงอยู่เสมอ ทำให้พัฒนาการทั้งจิตใจและร่างกายดีด้วย
นิทานอีสปที่เหมาะกับทารกก็เช่น
เนื้อหาในหน้าเพจนี้
มดกับนกเขา
นิทานเรื่องนี้เป็นนิทานที่ช่วยปลูกฝังให้ลูกมีใจอ่อนโยนเมตตาต่อผู้อื่น และเป็นเรื่องราวน่ารักของสัตว์ที่เข้าใจง่าย
กระต่ายกับเต่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ซับซ้อนและสนุกสนาน ทั้งกระต่ายและเต่าก็เป็นสัตว์ที่น่ารัก เด็กๆ จะชอบและจดจำได้
หนูนากับหนูเมือง
หนูเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ ที่เด็กๆ จะรู้สึกว่าน่ารักและมีขนาดตัวที่เล็กเหมือนกัน เรื่องของหนูสองตัวนี้ก็เป็นเรื่องเข้าใจง่ายสั้นๆ แต่น่ารัก
เด็กเลี้ยงแกะ
เรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่เล่าได้แบบง่ายและคล่อง เพราะเป็นนิทานอีสปที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เวลาที่เล่าให้เด็กในวัยทารกฟังก็จะเล่าได้แบบสนุกสนานฟังง่าย
หนูกับวีเซิล
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีเนื้อหาตลก ทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยก็จะรู้สึกสนุกสนานหัวเราะไปกับเรื่องราว อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่มีเนื้อหาสั้นๆ ด้วย
ราชสีห์กับหนู
เป็นอีกเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ทำให้เล่าง่าย และมีตัวละครเพียงสองตัว จะทำเสียงพากษ์ในการเล่าก็ทำง่าย เด็กๆได้ฟังก็สนุกสนานและได้จินตนาการภาพตามไปด้วย
หมาจิ้งจอกกับองุ่นเปรี้ยว
องุ่นเป็นผลไม้ที่มีรสหวานอร่อย เมื่อนำมาเล่าเป็นนิทานเด็กๆ ก็จะเรียนรู้จดจำถึงรสชาติและรูปทรงขององุ่น มีหมาจิ้งจอกเป็นตัวเดินเรื่องกับเรื่องราวที่น่ารักและเนื้อหาสั้นๆ เหมาะจะเล่าให้เด็กในวัยทารกฟังเป็นอย่างมาก
นิทานที่คุณพ่อคุณแม่เล่าให้กับลูกน้อยได้ฟัง นับว่าเป็นความสนุกสนานที่มีรูปแบบเรียบง่าย แต่มีประโยชน์ต่อเด็กๆ มาก การเล่านิทานให้ลูกน้อยในวัยทารกฟัง เป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณพ่อคุณแม่จะมอบให้กับลูกรัก ลองหานิทานมาเล่าให้ลูกฟังช่วงเวลาก่อนอน เด็กๆก็จะซึมซับช่วงเวลาแห่งความอบอุ่น และเรียนรู้ พัฒนาการความคิด จิตใจผ่านทางการได้ฟังนิทานสนุกเหล่านี้อย่างแน่นอน ต่อไปเป็นนิทานสำหรับผู้ใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่กันบ้าง