นิทานอีสป หมากับเงา สอนเรื่องผลเสียความโลภ

นิทานอีสป หมากับเงามีคำกล่าวขานอยู่ว่าเรื่องของเงาสะท้อนในน้ำ บางทีขนาดสิ่งของในเงานั้นมันก็หลอกตา แม้แต่คนยังมองเห็นเป็นของชิ้นใหญ่ขึ้นเมื่อมองเงาในน้ำ สุนัขก็เช่นกัน อย่างเช่นเรื่องของเจ้าหมาตัวนี้

มีหมาอยู่ตัวหนึ่ง มันชอบเดินเตร็ดเตร่อยู่ตามตลาด มองหาเศษอาหารและเศษเนื้อที่มันจะกินได้ วันนี้ดูเหมือนมันจะโชคดีมาก เพราะว่าพ่อค้าร้านขายเนื้อใจดี โยนกระดูกชิ้นโตให้กับมัน เจ้าหมากำลังหิวโซ เมื่อได้กระดูกชิ้นใหญ่มันจึงดีใจมาก คิดว่ามันได้ลาภก้อนใหญ่แล้ว

“ ข้าจะเอาไปนอนแทะในที่ๆ ไม่มีใครมาแย่งได้ กระดูกที่แสนหวานอร่อยจะทำให้ข้ามีความสุขไปอีกหลายวัน ”

เมื่อคิดได้ดังนั้น มันจึงคาบกระดูกและวิ่งไปหาสถานที่ปลอดผู้คน เพื่อที่จะนอนแทะกระดูก ขณะที่มันกำลังเดินไปตามทางอยู่นั้นก็ให้บังเอิญเดิมผ่านไปยังคลองเล็กๆ ที่มีสะพานข้าม มันจึงเดินขึ้นไปบนสะพานแห่งนั้น ทันใดนั้นเองมันเหลือบสายตามองลงไปในน้ำ ก็เห็นเข้ากับเงาของตัวเอง แต่ด้วยความที่มันไม่เคยเห็นเงาของตัวมันเองมาก่อน และมันก็ไม่รู้ว่านี่คือเงาที่สะท้อนตัวมันไม่ใช่ใครอื่น เจ้าหมาพินิจพิเคราะห์เงาหมาที่อยู่ในผืนน้ำ มันสังเกตว่า หมาตัวนั้นกำลังคาบกระดูกชิ้นใหญ่อยู่ แต่กระดูกชิ้นที่หมาตัวนั้นคาบไว้ดูใหญ่น่ากินกว่ากระดูกที่มันคาบอยู่เป็นไหนๆ

“ นี่ถ้าข้าได้กระดูกชิ้นที่เจ้าหมาตัวนั้นคาบมา กระดูกที่ชิ้นใหญ่กว่า คงจะแทะได้อย่างมีความสุขนานกว่ากระดูกในปากข้าไปอีกหลายวันทีเดียว ”

คิดได้ดังนั้นเจ้าหมาผู้โลภมากก็กระโจนลงไปหาเงาของมัน หวังจะตะครุบแย่งกระดูกชิ้นใหญ่จากหมาในน้ำ แต่แล้วมันก็ต้องตกลงไปในน้ำโดยที่ไม่ได้อะไรเลย แถมกระดูกชิ้นที่มันคาบมาก็จมหายไปกับสายน้ำด้วย เจ้าหมาตกใจตะเกียกตะกายจากน้ำอย่างทุลักทุเล จนกระทั่งขึ้นมาจากน้ำได้ สุดท้ายก็ต้องพบว่ากระดูกที่มันได้มาหายวับไปกับตา มันได้แต่เศร้าสร้อยเสียใจ เสียดายกระดูกชิ้นงามแต่ไม่อาจเอากลับคืนมาได้อีกแล้ว

นิทานอีสปเรื่องหมากับเงาสอนให้เรารู้ว่า ความโลภอาจนำพาให้โง่เขลาและเกิดความสูญเสียขึ้นได้ ต่อไปอ่านนิทานอีสป หมาป่ากับลา