นิทานอีสป หมาป่ากับลา สอนผลเสียของการทำสิ่งไม่ถนัด
นิทานอีสป หมาป่ากับลาเป็นเรื่องราวระหว่างลากับหมาป่า ไม่ว่าใครก็รู้ว่าลาย่อมจะเป็นเหยื่ออันโอชะที่หมาป่าแทบจะไม่ต้องออกแรงใด ๆ ก็สามารถเขมือบเจ้าลาได้อย่าง่ายดาย แต่เราลองมาดูเรื่องของลาและหมาป่าเรื่องนี้กัน อาจจะทำให้หลายคนเปลี่ยนความคิดได้
วันหนึ่ง มีเจ้าลาตัวหนึ่งมันกำลังเล็มหญ้าอยู่ในทุ่งหญ้ากว้าง ติดกับทุ่งหญ้านั้นเป็นป่าทึบ ทันใดนั้นมันมสังเกตเห็นเงาตะคุ่มอยู่ตรงพุ่มไม้ชายป่า เมื่อเพ่งดูก็เห็นดวงตาแวววาว มันรู้โดยทันทีวานั่นคือตาของหมาป่าที่กำลังจ้องมาที่มัน มันกำลังอยู่ในอันตรายและอาจจะตกเป็นอาหารเย็นของเจ้าหมาป่าตัวนี้ เจ้าลาจึงคิดใคร่ครวญเอาตัวรอด มันแกล้งทำเป็นขาเจ็บ เดินขาเป๋ ๆ เมื่อหมาป่าเข้ามาใกล้ ยังไม่ทันที่หมาป่าจะกระโดขย้ำมัน เจ้าลาก็พูดขึ้นว่า
“ ท่านหมาป่า ก่อนที่ท่านจะกินข้า ท่านช่วยเอาหนามที่ตำฝ่าเท้าของข้าออกให้ข้าก่อนได้ไหม มันช่างเจ็บปวดทรมานเหลือเกิน “
หมาป่าชะงักก่อนที่จะพูดว่า
“มีความจำเป็นอะไรที่ข้าจะต้องเอาหนามออกให้เจ้า ในเมื่ออีกสักครู่เจ้าก็จะลงไปอู่ในท้องของข้าแล้ว “
อ่าวท่านหมาป่า ถ้าท่านกินข้าขณะที่มีหนามแหลมทิ่มเท้าข้าอยู่ หนามนั้นก็จะแทงคอท่านได้นะ “ เจ้าลาตอบ
หมาป่าได้ยินดังนั้นก็เห็นด้วย มันไม่ยากจะกินอาหารมื้ออร่อยโดยมีหนามแทงคอ คงจะหมดอร่อยแน่ หมาป่าจึง
เข้ามาใกล้ลา แล้วเพ่งมองที่เท้าลาพยายามหาหนามนั้น ขณะที่หมาป่ากำลังเผลอ เจ้าลาจึงถีบเข้าที่หน้าของหมาป่าเต็มแรงจนหมาป่าเซหงายหลัง เจ้าลาได้จังหวะก็รีบกระโดหนีไปอย่างรวดเร็ว
กว่าที่หมาป่าจะรู้ตัวเหยื่ออันโอชะก็หายไปจากสายตา หมาป่าได้แต่รำพึงว่า “ สมควรแล้วล่ะที่ข้าจะอดกินเจ้าลา เพราะ
นิทานอีสปเรื่องหมาป่ากับลานี้ทำให้เราได้คิดว่า ไม่ควรฝืนทำอะไรที่ไม่ถนัด ไม่ใช่อาชีพของเรา ผลของมันก็รังแต่จะทำให้เรื่องเสีย นำไปอ่านนิทานอีสป หมาป่ากับลูกแพะกันต่อ