นิทานอีสป วัวกับล้อเกวียนเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวถึงเพราะในสถานการณ์บางครั้งก็ทำให้เรารู้ถึงความจริงบางอย่าง เช่นเดียวกับเรื่องราวของวัวเทียมเกวียนคู่นี้
ท่ามกลางพื้นถนนที่ขรุขระ เต็มไปด้วยหิน หลุม และโคลนเลน วัวเทียมเกวียนคู่หนึ่งต้องใช้กำลังทั้งหมดที่มีของพวกมัน เพื่อลากดึงเกวียนไปตามถนนให้ได้ พวกมันตั้งใจออกแรงสุดกำลังโดยไม่เคยเอ่ยคำบ่นแม้สักคำหนึ่ง แตกต่างจากล้อเกวียนที่มีหน้าที่แสนง่าย แค่หมุนตัวไปตามแรงที่วัวลากเท่านั้น แต่ล้อเกวียนกลับส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด บ่นมาตลอดทาง ส่วนวัวนอกจากมันจะต้องออกแรงจนเหนื่อยหอบ กับงานที่แสนยากลำบากแล้วยังต้องทนฟังเสียงบ่นของล้อเกวียนไปตลอดอย่างน่ารำคาญ ทำให้การทำงานที่เหนื่อยยากยิ่งน่าหงุดหงิดกว่าเดิม
เจ้าวัวตัวหนึ่งถึงกับทนไม่ไหว พูดขึ้นมาด้วยเสียงดังว่า
“ หยุดบ่นและเงียบเดี๋ยวนี้นะ เจ้าเป็นแค่ล้อมีหน้าที่หมุนตามเรา โดยไม่ลำบากอะไรเลย แต่เราสองตัวเสียอีกต้องลากน้ำหนักทั้งหมดของเจ้าและเกวียนนี้ ถึงขนาดนั้นเราทั้งสองก็ไม่เคยบ่นอะไรเลย ”
นิทานอีสปเรื่องวัวกับล้อเกวียนสอนให้เรารู้ว่าในสถานการณ์การทำงาน หลายคนก็ต้องทนกับคนที่ออกแรงบ่นว่าตนเองทำงานหนัก เหนื่อยยาก ทั้งที่แทบไม่ทำอะไรเลยนอกจากบ่น คนที่บ่นที่สุดอาจจะเป็นคนที่ทุกข์น้อยที่สุดก็เป็นได้ อ่านนิทานอีสป ราชสีห์กับหนูต่อกันเลย