นิทานอีสป สุนัขจิ้งจอกกับอีกา เรื่องคำพูดประจบสอพลอ
นิทานอีสป สุนัขจิ้งจอกกับอีกากล่าวความถึงตัวสุนัขจิ้งจอก ซึ่งดูเป็นสัตว์ที่มีความเจ้าเล่ห์ มาดูความเจ้าเล่ห์ของสุนัขจิ้งจอกในเรื่องนี้กัน
ในป่าแห่งหนึ่ง มีสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อาศัยอยู่ เราต่างรู้กันอยู่แล้วว่าเนื้อคืออาหารสุดโปรดของมัน วันหนึ่งในขณะที่เจ้าสุนัขจิ้งจอกออกหาอาหารก็บังเอิญสายตาของมันเหลือบไปเห็นอีกาตัวหนึ่งกำลังคาบเนื้อชิ้นใหญ่น่ากินมา ด้วยความเจ้าเล่ห์ของมันจึงคิดแผนการอันแยบยล มันกล่าวทักทายอีกาด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
“สวัสดีเจ้าอีกา ข้าไม่เคยเห็นอีกาตัวไหนที่มีดวงตาสวยเหมือนเจ้ามาก่อนเลย ตาของเจ้าช่างดูคมสวยงามเหมือนดั่งดวงตาของเหยี่ยว ”
อีกาได้ยินคำพูดยอจากสุนัขจิ้งจอก มันก็ชอบใจจึงบินต่ำลงมาเกาะยังกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้สุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้งจอกมันยังพูดชมอีกาอีกว่า
“ แหม พอข้าได้เห็นเจ้าใกล้เข้ามาอีก ข้าก็ยิ่งชอบปีกของเจ้า มันดูแข็งแรงไม่ต่างจากปีกของพญาอินทรีย์ทีเดียว ”
อีกาได้ฟังดังนั้น มันก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจและปลื้มในคำเยินยอของสุนัขจิ้งจอก มันเชิดหน้าและยืดอกขึ้นอย่างทระนง
“ ถ้าข้าได้ฟังเสียงร้องของเจ้าแล้วละก็ ข้าเชื่อว่ามันจะต้องเป็นเสียงที่กังวานใส และไพเราะกว่าเสียงร้องของนกตัวใดในป่าอย่างแน่นอน ”
เมื่ออีกาได้ยินเช่นนั้น มันก็อ้าปากเปล่งเสียงร้องออกมา หวังจะได้รับคำชมจากสุนัขจิ้งจอกอีก ทันใดนั้นเนื้อชิ้นใหญ่ที่มันคาบมาก็หล่นจากปาก สุนัขจิ้งจอกที่คอยท่าอยู่แล้วก็กระโจนเข้าคาบเนื้อนั้นแล้ววิ่งหนีหายไปอย่างรวดเร็ว
นิทานอีสปเรื่องสุนัขจิ้งจอกกับอีกาสอนให้พวกเรารู้ว่า อีกาก็คงไม่ต่างจากคนบางประเภทที่ชอบฟังคำสรรเสริญเยินยอจากคนมักประจบสอพลอ แต่คำชมบางครั้งก็เหมือนยาพิษที่ทำให้เหลิงจนหลงทางพลาดพลั้ง และคนประจบประแจงก็มักจะหวังผลประโยชน์มากกว่าการพูดด้วยความจริงใจ ต่อไปอ่านนิทานอีสป กระต่ายกับเต่า