สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเวียดนามด้วยตัวเอง Pantip
เที่ยวเวียดนาม เยือนดินแดนมังกรทางใต้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีวัฒนธรรมหลากหลายเพราะว่าได้รับวัฒนธรรมมาจาก อินเดียเป็นเวลายาวนานยกเว้นฝั่งทางตะวันออกเพราะได้รับวัฒนธรรมจีนมาเต็มรูปแบบ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทุกคนมาเที่ยว เวียดนาม ประเทศเพื่อนบ้านที่ใครๆ ก็อยากไปเที่ยวสักครั้งหนึ่ง
เวียดนาม คำว่า เวียด มาจากภาษาจีน แปลว่า เดินทางผ่านไปหรือ ไกลส่วนคำว่านาม แปลว่า ทิศใต้ เวียดนาม จึงมีความหมายว่า ดินแดนทางตอนใต้ของชาวเวียดนามนับว่าเป็นเพื่อนบ้านกับประเทศไทยมาอย่างยาวนานในประเทศ เวียดนาม มีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่มากมาย มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกอีกหลายแห่งที่เราควรสัมผัสกันเที่ยวพม่าต่อเลย
เนื้อหาในหน้าเพจนี้
อ่าวฮาลอง
อ่าวฮาลองเป็นสถานที่ที่ยังคงความสมบูรณ์ของพันธุ์สัตว์เอาไว้เป็นจำนวนมาก มีความหลากหลายทางชีวภาพ จนกลายเป็นมรดกโลก ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม จุดเด่นคือ เกาะหินปูนที่โผล่ขึ้นกระจายตัวอยู่ ๆ ทั่วอ่าว ครอบคลุมพื้นที่มากถึง 1,500 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียวทำให้มีบรรยากาศที่สวยงามเหมือนความฝัน แสง สี อันสมดุลในยามพระอาทิตย์โบกมือลา มันช่างน่าหลงใหล ห่างจากกรุงฮานอย 170 กม.
พระราชวังทังลอง
พระราชวังทังลองแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยหินทั้งหมด เป็นสมบัติของราชวงศ์ Ho ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1379 และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้ว เพราะเป็นราชวังหินแห่งเดียว ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงถูกยกย่องเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมในสมัยนั้น ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ราคา 16 บาท ,เด็ก (อายุ 10-15 ปี) ราคา 8 บาท เปิดให้บริการทุกวันช่วงฤดูร้อนเปิดเวลา 07.00-17.00 น. ,ฤดูหนาวเปิดเวลา 07.30-17.30 น.
เมืองเก่าฮอยอัน
เมืองฮอยอันเป็นเมืองขนาดเล็กอยู่ริมฝั่งทะเลจีนใต้ มีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง มีอาคารต่าง ๆ ที่ยังคงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมทางตะวันตกและตะวันออก จึงไม่แปลกที่เมืองฮอยเก่าอันจะกลายเป็นมรดกโลก (อีกแล้ว) การสัญจรไปมาในเมืองสะดวกสบาย เพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก แต่หลังสี่ทุ่มไปแล้วจะค่อนข้างเงียบ แต่ก็มีผับบาร์ ร้านขายเครื่องดื่ม ซึ่งคอยเปิดให้บริการอยู่บ้าง ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์คนละ 181 บาท และนักท่องเที่ยวต้องแต่งกายสุภาพเท่านั้น เช่น ผู้ชายต้องใส่เสื้อเชิ้ต และผู้หญิงห้ามสวมเสื้อไม่มีแขน หรือสวมกระโปรงสั้นเหนือเข่าเป็นต้น
สุสานโฮจิมินห์
เมืองฮานอยมีสถานที่ขึ้นชื่อคือสุสานโฮจิมินห์ หรืออดีตนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีของเวียดนาม สถาปัตยกรรมได้แบบอย่างมาจากอนุสาวรีย์บรรจุศพของท่านวลาดีมีร์เลนินแห่งรัสเซีย เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1975 เปิดให้เข้าชม วันอังคาร-พฤหัสบดี และใน วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-11.00 น. และเช่นกันสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเยี่ยมชมต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อยเท่านั้น
อุโมงค์กู๋จี
อุโมงค์กู๋จีเป็นอุโมงค์ที่มีประวัติความยาวนาน ตั้งแต่ยุคสงครามเวียดนาม ซึ่งใช้เป็นที่หลบภัยจากระเบิดในช่วงนั้นและเป็นที่ประชุมของกองกำลังเวียดกงสมัยที่รบกับอเมริกา อุโมงค์นี้มีหลายชั้นและมีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพ ภายในอุโมงค์ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยโรงพยาบาล ห้องพัก และห้องประชุม สำหรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน ท่านจะได้รับชมหนังสั้นที่มีเกี่ยวกับสงครามเวียดนามก่อนจะเข้ามาภายใน เปิดให้บริการตลอดทั้งปี
ปราสาทหมีเซิน
ปราสาทหมีเซินคือสิ่งก่อสร้างที่ยังคงหลงเหลือจากอาณาจักรจามปา ในช่วงศตวรรษที่ 4-15 แสดงถึงสถาปัตยกรรมของฮินดูและมีความสมบูรณ์ที่สุดในอินโดจีน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับบูชาพระศิวะ มีรูปปั้น วัด และยังถูกห้อมล้อมไปด้วยป่าดงดิบ สมัยก่อนมีสิ่งก่อสร้างโบราณกว่า 70 หลัง แต่จนปัจจุบันเหลืออยู่ 22 หลังเท่านั้น และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้ว อีกด้วยเปิดทำการตลอดทั้งปี เวลาที่เหมาะสม คือ ช่วงเช้า
พระราชวังเว้
พระราชวังเว้เป็นพระราชวังของราชวงศ์เหงียนที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ภายในมี พระราชวัง สุสานของกษัตริย์ เจดีย์ วัดห้องสมุด และพิพิธภัณฑ์ สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 19 แต่ยอดฮิตที่สุดคือ ทางเข้าพระราชวัง ซึ่งเป็นทางเดินเข้าสำหรับกษัตริย์ และเชื้อพระวงศ์ เท่านั้น นอกจากจะมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว ก็ยังมีทิวทัศน์ที่งดงามไม่แพ้กัน และแน่นอนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้วเปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ควรหลีกเลี่ยงช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมเพราะจะมีฝนตก
พิพิธภัณฑ์สงครามเวียดนาม
พิพิธภัณฑ์สงครามเวียดนามเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเพื่อรำลึกถึงสงครามเวียดนาม สงครามแห่งการสูญเสีย ภายในจัดแสดงเฮลิคอปเตอร์ รถถัง เครื่องบินจู่โจม ฯลฯ ซึ่งเป็นอาวุธที่อเมริกันใช้โจมตีเวียดนาม และสิ่งที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดคือ กรงเสือ ที่ใช้คุมขังนักโทษการเมืองถึง 14 คน รวมไปถึงเครื่องประหารชีวิต สำหรับนักโทษการเมือง เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมการสูญเสียแห่งอดีตเลยทีเดียว เปิดทุกวัน 07.30-12.00 น. และ 13.00-17.00 น.
อุทยานแห่งชาติเวียดนาม
อุทยานแห่งชาติเวียดนามมีความโดดเด่นทางธรรมชาติและทางด้านธรณีวิทยา เพราะมีวิวัฒนาการมาประมาณ 464 ล้านปีที่แล้ว และแน่นอน เช่นเคย ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้ว ในอุทยานฯ มีถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีมากกว่า 300 ถ้ำ ปกคลุมไปด้วยป่าเขตร้อน นอกจากนี้ ยังมี ลำธารใต้ดิน ,หินย้อยจากเพดาน,พันธุ์สัตว์ที่กำลังจะสาบสูญเช่น หมีดำ เสือ เปิดให้บริการตลอดทั้งปี
ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน
ที่หมุยแหนมีบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย ติดกับชายทะเล มีแดดและลมที่แรงมาก ที่นี่มีเนินภูเขาทรายอยู่ 2 แห่ง คือ ภูเขาทรายขาว ที่มีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดให้บริการ และภูเขาทรายแดง ที่มีขนาดเล็กกว่า แต่กลับเป็นที่นิยมมากกว่าเนื่องจากสีทรายมีสีแดงเข้ม เวลาถ่ายรูปออกมาแล้วจะมีสีสวยกว่าที่ภูเขาทรายขาว กิจกรรมยอดฮิต คือ การเล่นกระดานเลื่อนบนนั่นเอง อุปกรณ์สามารถหาเช่าได้จากร้านที่อยู่ใกล้ ๆ เปิดให้บริการตลอดทั้งปี
เที่ยวเวียดนามด้วยตัวเอง ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
เรื่องวีซ่า
คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า อยู่ในเวียดนามได้ระยะเวลา 30 วันตรวจสอบ Passport และมีที่ปั๊มอย่างน้อยที่สุด 2 หน้า
เรื่องเงินและการนำเข้า
เพื่อให้ได้เรทการแลกเงินที่ดีควรนำเงินบาทไทยแลกเป็น USD แล้วจึงนำ USD ไปแลกเป็นเงิน VND ที่สนามบินที่เวียดนาม นำเงินตราต่างประเทศเข้าประเทศเวียดนามได้ไม่เกิน 7,000USDนำเข้าบุหรี่ไม่เกิน 200 มวน และแอลกอฮอล์ ได้ไม่เกิน 2 ลิตรเวียดนาม
ห้ามนำเข้าหนังสือที่มีข้อความเกี่ยวกับรัฐบาล สื่อลาก อาวุธปืน และห้ามนำออกวัตถุโบราณ ไม้ท่อน ไม้ซุง ไม้สัก ไม้แปรรูปและหวาย สัตว์ป่า พันธุ์ไม้ที่มีค่าอาวุธอุปกรณ์ทางการทหารวัตถุระเบิดสารเคมีดอกไม้ไฟ วีดีโอเทปประทัดสิ่งที่ทำให้เป็นภัยต่อการเมือง
เรื่องการใช้โทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต
เราสามารถซื้อซิมViettel wfhที่สนามบินนอยไบ ใช้ได้ทั้งแพคเกจโทรและเล่น แบบ 7 วัน จะคุ้มมาก เน็ตแรงมาก
เรื่องปลั๊กไฟ
เวียดนามใช้ไฟฟ้า 220 โวลต์ เหมือนกับบ้านเรา ปลั๊กมีทั้งแบบแบน แบบกลม แต่ก็อยากแนะนำให้ติดหัวแปลงปลั๊กไฟไปด้วย
อย่าลืมถ่ายเอกสาร
โดยเฉพาะPassport เพราะเวลาเช็คอิน ส่วนมากเขาจะขอ Passport ของเราเอาไว้จนกว่าเราจะเช็คเอาท์เขาถึงจะคืนให้
ของใช้จำเป็น
ยาสามัญประจำบ้าน ยารักษาโรคประจำตัว,ร่ม ,เสื้อกันฝน
ข้อควรระมัดระวัง
ปัญหาเรื่องความปลอดภัยที่พบมากที่สุดจะเกิดขึ้นจากการสัญจรบนถนน หลีกเลี่ยงการใช้รถสามล้อถีบเวลากลางคืน ควรใช้แท็กซี่จะปลอดภัยกว่า แม้ว่าบางครั้งแท็กซี่จะพา อ้อมออกนอกเส้นทางเพื่อให้ค่ามิเตอร์สูงขึ้นก็ตาม คนเดินเท้าที่ต้องเพิ่มความระวังเป็นพิเศษ เพราะจราจรที่ไม่เป็นระเบียบมากนัก
- การหลอกลวงและปล้นทรัพย์
- อย่าแสดงให้ผู้อื่นรู้ว่าคุณมีเงินสดติดตัว แบ่งเก็บเงินส่วนที่ยังไม่ใช้ไว้ที่อื่นไม่นำติดตัว พกบัตรเดบิตเผื่อไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน มีตู้เอทีเอ็มให้บริการอยู่ทั่วไปละเว้นจากการสวมเครื่องประดับมี
- ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ทุกอาคารที่ทำการต่าง ๆ ของรัฐทั้งหมด
- นำเครื่องคิดเลขไปด้วยทุกครั้ง เพื่อให้สะดวกเวลาซื้อของ เรากดให้แม่ค้าดูได้เลย เพราะส่วนใหญ่แม่ค้าจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
- เวลาซื้อของ ให้ต่อลงมา 50%เอาไว้ก่อน เพราะมีให้เลือกหลายร้าน ส่วนมากจะลดให้ทั้งนั้น การใช้บริการเช่นซื้อของทานอาหาร ควรตกลงราคาก่อน และใช้ก่อน จ่ายทีหลัง
- การเช่ารถ ควรถ่ายรูปรถก่อนเอาออกไป และให้เจ้าของร้านดูรูปด้วย เพื่อป้องกันว่าเราทำเสียหายในตอนที่ส่งรถคืนให้
- การถ่ายรูปคนในเวียดนาม ให้ระวังการ โดนด่ากับ และการเรียกเก็บเงิน
หากจะอยู่อาศัยเป็นระยะเวลานาน ควรแจ้งชื่อ และที่อยู่ ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ/สถานกงสุลฯ เพื่อความปลอดภัยในการติดต่อ และความช่วยเหลือในกรณีจำเป็น
- สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ (Royal Thai Consulate-General)
- 77 Tran Quoc Thao Street, District 3,Ho Chi Minh City
- โทรศัพท์ (84 8) 932 7637-8
- โทรสาร (84 8) 932 6002
- เวลาทำการจันทร์-ศุกร์ 08.30-12.00 น.และ 13.30-17.00 น.
- กรณีฉุกเฉินนอกเวลาทำการ (001 84 90) 370 3677 (โทรจากประเทศไทย) (090) 370 3677 (โทรในประเทศเวียดนาม) E-mail: mailto:thaidkr@telecom-plus.sn
ลักษณะภูมิอากาศ
เนื่องจากเวียดนามมีความยาวของแผ่นดินอย่างมาก ทำให้มีลักษณะภูมิประเทศ และสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ซึ่งใครที่กำลังมองหาช่วงเวลาเพื่อไปท่องเที่ยวเวียดนาม ควรศึกษาช่วงของสภาพอากาศให้ดี โดยดูได้จากข้อมูลที่มุ๊เมี๊ยวนำมาให้ในนี้ได้เลย
ภาคเหนือของประเทศเวียดนาม
- ฤดูหนาวในช่วง ธันวาคม-กุมภาพันธ์ช่วงนี้จะมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิประมาณ 7 – 20 องศาเซลเซียส และจะหนาวขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาหนาวที่สุดในเดือนมกราคม
- ฤดูใบไม้ผลิในช่วง มีนาคม-เมษายนช่วงนี้จะมีฝนตกเล็กน้อยและชุ่มชื้นไปด้วยกลิ่นดิน อุณหภูมิประมาณ 17 – 23องศาเซลเซียส
- ฤดูร้อนในช่วง พฤษภาคม-สิงหาคมช่วงนี้จะมีสภาพอากาศร้อนและมีฝนปานกลาง อุณหภูมิ 30 – 39 องศาเซลเซียส
- ฤดูใบไม้ร่วงในช่วง กันยายน-พฤศจิกายนช่วงนี้จะมีอุณหภูมิประมาณ 23 – 28 องศาเซลเซียส ถือว่ากำลังดี
ภาคกลางของประเทศเวียดนาม
- ฤดูฝนซึ่งอยู่ในช่วง พฤษภาคม-ตุลาคม
- ฤดูร้อนอยู่ในช่วง ตุลาคม-เมษายน เดือน มกราคม อุณหภูมิเกือบ 20 องศาจะมีอากาศเย็นที่สุด เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม อุณหภูมิเกือบ 40 องศา จะมีอากาศร้อนที่สุด
ภาคใต้ของประเทศเวียดนาม
- ฤดูฝนอยู่ในช่วง พฤษภาคม-พฤศจิกายน
- ฤดูร้อนอยู่ในช่วง พฤศจิกายน-เมษายน เดือน มกราคม อุณหภูมิประมาณ 26 องศาจะมีอากาศเย็นที่สุด เดือนเมษายน อุณหภูมิประมาณ 39 องศาจะมีอากาศร้อนที่สุด
รีวิวเที่ยวเวียดนาม PANTIP
นักท่องเที่ยวชาวไทย เริ่มนิยมเดินทางไปเยือนเวียดนามเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศเวียดนามจากการค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็มีไม่น้อยกว่าประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะแหล่งข้อมูลอย่าง PANTIP ที่มีการตั้งกระทู้จากผู้เคยไปเยือนเวียดนามมากมายหลายกระทู้ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่ต้องการหาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวไปเวียดนามจะได้ศึกษาข้อมูลล่วงหน้าเพื่อการวางแผนในการท่องเที่ยวประเทศ
กระทู้ PANTIP:[ยกล้องเดินเล่นเที่ยวเมือง “โฮจิมินห์” และย่ำเท้าลุยมหัศจรรย์ทะเลทรายแห่งเอเชียที่ “มุยเน่” ..เสน่ห์แห่งเวียดนามใต้]
http://pantip.com/topic/34330620
กระทู้นี้มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่เคยไปเวียดนามและวางแผนจะเดินทางไปเที่ยว “โฮจิมินห์” เมืองหลวงของประเทศเวียดนาม และ “มุยเน่” เมืองหนึ่งที่อยู่ด้านเวียดนามใต้ เจ้าของกระทู้เดินทางด้วยการโดยสารเครื่องบิน และรีวิวตั้งแต่การเดินทางออกจากสนามบินในประเทศไทย เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับการท่องเที่ยวในเวียดนาม สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนเวียดนาม และปิดท้ายด้วยการเดินทางกลับด้วยสายการบินเดิมเช่นเดียวกับเมื่อตอนขาไป นับได้ว่าเป็นกระทู้ที่มีเนื้อหาครบถ้วนสมบูรณ์เลยทีเดียว ภาพประกอบการรีวิวก็สวยงามน่าสนใจ
กระทู้ PANTIP:[DALAT สวิตเซอร์แลนด์แห่งเวียดนามกับวันที่ฟ้าหม่นหมอง]
http://pantip.com/topic/34359698
กระทู้รีวิวการเที่ยวภายในเมืองดาลัด (DALAT) ด้วยรถยนต์ จากมุมมองของเจ้าของกระทู้ผ่านการรีวิวและรูปภาพประกอบ ทำให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมและความงดงามของธรรมชาติในเมืองดาลัด เมืองเล็กๆ ทางภาคใต้ตอนบนของประเทศเวียดนาม
กระทู้ PANTIP:[FIRST @ SOUTH VIETNAM เพราะชีวิตคือการเดินทาง (มิตรภาพและน้ำใจ)]
http://pantip.com/topic/34290053
กระทู้รีวิวการเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมือง สู่ประเทศเวียดนาม และต่อด้วยการนั่งรถบัสไปยัง “มุยเน่” เมืองในดินแดนเวียดนามใต้ที่มีทะเลทรายสีขาว ใช้เวลาในการเดินทางจากเมืองหลวงของเวียดนามไปยังเมืองมุยเน่ โดยใช้เวลา 5 ชั่วโมง นอกจากการเดินทางโดยเครื่องบินและสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมุยเน่แล้ว กระทู้นี้ยังมีความน่าสนใจเกี่ยวกับการเดินทางโดยรถบัสและสภาพภายในรถบัส ใครหลายๆ คนที่กำลังลังเลเกี่ยวระยะทางและการเดินทางด้วยรถบัสเป็นเวลาหลายชั่วโมง ลดความกังวลใจเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทางและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
กระทู้ PANTIP:[First Time in Hue แบกเป้ขึ้นรถทัวร์ไปเที่ยว (ผับ) เวียดนามกันเถอะ]
http://pantip.com/topic/34368388
กระทู้นี้เพิ่มข้อมูลที่เป็นทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่สะดวกจะเดินทางไปเวียดนามด้วยเครื่องบิน เจ้าของกระทู้ซึ่งเป็นนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยเล่าประสบการณ์การโดยสายรถทัวร์จากอีสาน ผ่านลาว เพื่อไปยังเมืองเว้ (Hue) ของเวียดนาม เป็นอีกหนึ่งกระทู้ที่มีค่ามากสำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนการเดินทางด้วยรถทัวร์ เพราะนอกจากมีข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ ในการเดินทางแบบละเอียดแล้ว เจ้าของกระทู้ยังเล่าถึงประสบการณ์ทั้งที่น่าประทับใจและไม่น่าประทับใจ ให้ผู้ที่สนใจเตรียมตัวและเตรียมใจสำหรับการเดินทางในสไตล์นี้ หากใครที่ต้องการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนเมืองเว้ก่อนเดินทางไปสัมผัสด้วยตนเอง กระทู้นี้น่าจะมีประโยชน์มากเลยทีเดียว
และสุดท้ายนี้มุ๊เมี๊ยวก็ขอให้ทุกท่านเดินทางกันอย่างระมัดระวัง มีความสุข สนุกสนานกันทุกท่านเลยค่ะ สวัสดีค่ะ