เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดที่มีภูเขาล้อมรอบสวยงามไปด้วยชายหาดมากมายและที่เที่ยวประจวบที่มีชื่อเสียงอย่างหัวหิน ปราณบุรี และที่อื่นๆ อีกมากมาย จะมีที่ใดบ้างเราลองมาค้นหาไปด้วยกันในปีนี้ สถานที่ท่องเที่ยวเปิดประตูสู่ด้ามขวาน ความงดงามตระการที่อดใจไม่ไหว ที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์น่าไปสุดๆเลย ^_^
เนื้อหาในหน้าเพจนี้
ปราณบุรี
อำเภอปราณบุรีเป็นอีกอำเภอหนึ่งที่มีความโดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในปัจจุบันรองมาจากอำเภอหัวหิน และมีอาณาเขตติดกับหัวหิน ผู้คนที่รักธรรมชาติและรักความสงบมันเลี่ยงจากเมืองหัวหินมาเที่ยวพักยังอำเภอปราณบุรีแห่งนี้ ในช่วงปีหลัง ๆมานี้ ปราณบุรีเริ่มมีที่พักทั้งรีสอร์ท โฮมเสตย์ และบ้านพักลักษณะต่าง ๆ มากขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ตลอดแนวยาวของตัวหาดแบ่งเป็น 3 ระยะคือ หาดนมสาวหรือหาดสามร้อยยอด หาดปราณบุรี และหาดเขากะโหลก มีทางรถให้ขับเลียบตลอดชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใส สามารถลงเล่นน้ำได้พราะหาดลาดและมีแนชายหาดที่ปลอดภัย
อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
อุทยานแห่งชาติกุยบุรีแห่งนี้มีไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เพราะเป็นที่อยู่ของช้างและกระทิงจำนวนมาก ด้วยความอุดมสมบูรณ์และเนื้อที่กว้างครอบคลุมถึง 4 อำเภอ คือ สามร้อยยอด กุยบุรี ปราณบุรี และอำเภอเมือง มีฉายาว่า ป่าซาฟารีเมืองไทย ผู้ที่ได้มาเยือน ณ อุทยานแห่งนี้ต่างก็มีจุดหมายเพื่อมาเฝ้ารอดูช้างโขลงใหญ่หลายโขลงที่อาศัยอยู่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี มักจะลงมายังชายป่าเขตหมู่บ้านบ้านรวมไทย และฝูงวัวกระทิงป่าที่มักรวมตัวกันมาหากินตามหุบเขาในอุทยาน ช่วงเวลาที่เหมาะจะมาซุ่มเฝ้าดูเหล่าสัตว์ก็คือ บ่ายสามโมงถึง หกโมงเย็น โดยจะต้องติดต่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานเป็นผู้นำทางให้ มีบริการรถกระบะนำเที่ยวชมสัตว์โดยชาวบ้านที่ชำนาญการเดินป่า ราคาประมาณ 700 บาท หากต้องการพักค้างแรมในอุทยานทางอุทยานก็มีบ้านพักขนาด 3 ห้องนอนเตรียมไว้บริการด้วย ที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติกุยบุรีอยู่ที่ บ้านรวมไทย ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี
อ่าวมะนาว
อ่าวมะนาวจากชายหาดมะนาวที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสสะอาด จะมองไปเห็นเขาล้อมหมวก หากกต้องการไปเที่ยวชมเขาแห่งนี้ก็สามารถเดินไปได้อย่างง่ายดายเมื่อน้ำลด เพราะจะปรากฏสันทรายเป็นแนวทอดไปถึงเขาทีเดียว ที่ยอดเขามีพระพุทธบาทจำลองให้ได้สักการะ ที่เชิงเขายังมีศาลเจ้าพ่อล้อมหมวกที่ชาวบ้านมักมากราบไหว้ และไฮไลท์อีกอย่างที่น่าสนใจคือที่เขาแห่งนี้เป็นศูนย์อนุรักษ์พันธุ์ข้างแว่น มีบริการบ้านพกหลากหลายแบบสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย จากทางเข้ากองงการบินของอ่าวมะนาวประตูที่ 53 จะมีกิจกรรมน่าสนใจคือการให้อาหารค่างแว่น ตัวค่างแว่นน่ารักจำนวนมากจะอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ เมื่อขับรถเลยมาเรื่อย ๆ ก็จะถึงชายหาดอ่าวมะนาว นอกจากการให้อาหารค่างแว่นแล้ว อีกกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือการปั่นจักรยานริมอ่าวมะนาว ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เป็นอุทยานแห่งชาติริมฝั่งแห่งแรกของประเทศไทย เป็นอุทยานที่มีความสวยงามและมีกิจกรรมหลากหลายให้ผู้มาเยือนได้พักผ่อนอย่างสนุกสนานและเพลิดเพลิน เริ่มจากเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวยอดเขาแดง ล่องเรือที่คลองเขาแดง เส้นทางล่องเรือเริ่มจากหน้าวัดเขาแดงไปตามลำคลอง ตลอดทางมีธรรมชาติสวยงามและยังมีนกนานาชนิดให้ได้ดู ใช้เวลาล่องเรือทั้งไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ช่วงเวลาที่เหมาะในการล่องเรือคลองเขาแดงคือช่วงเย็น เพราะอากาศจะไม่ร้อน หากยังติดใจในการล่องเรือ มีเส้นทางล่องเรือจากหมู่บ้านบางปู ไปยังหาดแหล่งศาลาใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อไปเทียบหาดแหลมศาลาและชมถ้ำพระยานคร ซึ่งเชื่อกันว่า พระยานครผู้เป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชได้ค้นพบสมัยรัชกาลที่ 1 ที่นี่มีพระที่นั่งคูหาสวรรค์ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 อยู่ด้วย พระที่นั่งแห่งนี้มีความสำคัญและโดดเด่นมากเพราะถูกใช้เป็นตราประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ด้วย
วัดตาลเจ็ดยอด
แวะวัดตาลเจ็ดยอดเพื่อสักการะรูปหล่อของหลวงพ่อโต หรือสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรมรังสี องค์ใหญ่ที่สุดในโลก สูงถึง 18 เมตร นอกจากรูปหล่อหลวงพ่อโตแล้ว ภายในบริเวณวัดยังมีบ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ที่จำลองแบบเหมือนจากบ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดอินทรวาส มีสถานที่ให้ปฏิบัติธรรมที่ร่มรื่น ที่สำคัญที่วีดแห่งนี้จัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้แก่ทุกคนที่มาเยือนฟรี ในทุก ๆ วันอีกด้วย วัดตาลเจ็ดยอดตั้งอยู๋ที่ตำบลศาลาลัย เภอเขาสามร้อยยอด
หาดสามพระยา
หาดสามพระยาเป็นหาดสวยงามและร่มรื่นไปด้วยทิวสนในระยะทางประมาณ 2 กม.แห่งนี้ อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 3.5 กม. ชายหาดกว้างและขาวนวลมีร่มไม้เป็นทิวยาว เหมาะในการเล่นน้ำจะกางเต้นท์พักแรม ทางทิศใต้ของหาดจะเป็นแหล่งใหญ่ที่นกชายเลนอาศัยอยู่ จึงเหมาะเป็นจุดดูนกอีกแห่งหนึ่ง ในช่วงเย็นเป็นเวลาที่เหมาะในกาดูนก และในเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคมนกจะมีเยอะเป็นพิเศษ เพราะมีนกอพยมมาตามฤดูการจากต่างถิ่น
ศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี
ศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี จากนากุ้งที่เสื่อมโทรม สภาพแวดล้อมรกร้างกลับฟื้นคืนมาเป็นป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ เป็นพระราชดำริของในหลวงและพระราชินีในปี พ.ศ. 2539 จากเดิมที่ทั่วบริเวณนี้เป็นนากุ้ง หากมาเที่ยวเป็นกลุ่มถ้าได้ติดต่อทางศูนย์ไว้ล่วงหน้าจะมีมัคคุเทศน์ท้องถิ่นตัวน้อยคอยนำเที่ยวด้วย ภายในแบ่งเป็น 3 โซนด้วยกน เริ่มจาก อาคารเฉลิมพระเกียรติ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นทางเดินไม้เข้าไปในป่าชายเลนที่เย็นสบายและมีธรรมชาติสมบูรณ์ ร่มเย็นตลอดวัน มีปลาตีนและนกพันธุ์ต่าง ๆ หากมาในฤดูน้ำมาก สามารถพายเรือคายัคเล่นรอบป่าโกงกางด้วย และโซนข้อมูลลศึกษาเรียนรู้ มีหอชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวได้ทั่วป่าโกงกาง ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี
หาดบางเบิด
หาดบางเบิดเป็นหาดที่น่าหลงใหลสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและความสงบอย่างแท้จริง เพราะที่หาดบางเบิดสงบเงียบและเป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์ เหมาะที่จะหลบเร้นจากความวุ่นวายของผู้คนและแสงสีในเมืองอันจอแจมาพักร่มรื่นชาร์ตแบตให้กับชีวิต หาดบางเบิดมีสีน้ำตาลแง อ่าวเป็นแนวโค้งความยาว 14 กม. สัญลักษณ์ของหาดบางเบิด หรือบ้านบางเบิดคือ ภูเขาซึ่งยื่นลงไปในทะเลครึ่งลูก ซึ่งบริเวณนี้สมัยสงครามมีการทิ้งระเบิดมากที่สุด ชาวบ้านจึงเรียกว่าเขาเบิด นักท่องเที่ยวนิยมมาปีนเขา และถ่ายรูปวิวหาดสวย ๆ ที่มองจากยอดเขา ที่นี่เป็นต้นกำเนิดของแตงโมพันธุ์ดีคือแตงโมบางเบิด ที่รู้จักกันมาแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง มีขนาดผลใหญ่มากและเนื้อหวานฉ่ำ ความอุดมสมบูรณ์ของเขาเบิดและป่าทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวดู ปูราชินี ค่างแว่น และนกเงือกอีกด้วย หาดบางเบิดตั้งอยู่ที่ตำบลทรายทอง
ศูนย์ทอผ้าเขาเต่า
แวะหาซื้อผ้าทอสวย ๆ ไปเป็นของฝากหรือใช้เองกลับไปบ้านได้ที่ศูนย์ทอผ้าเขาเต่า ห่างจากหัวหินมายังเขาเต่าระยะทางไม่ไกล จากพระราชดำริของพระราชินี ที่ทรงรื้อฟื้นการทอผ้าโดยใช้กี่กระตุก เริ่มจากทอผ้าขาวม้าใกลุ่มแม่บ้านละแวกชุมชนใกล้ ๆ จนเป็นผลิตภัณฑ์จากผ้าทอในรูปแบบต่าง ๆ สวย ๆ ให้ได้เลือกซื้อมากมาย ศูนย์แห่งนี้ได้ทรงริเริ่มให้มีการฝึกสนกันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 ที่ใต้ถุนวัดเขาเต่า หากใครที่มาเยือนจังหวัดประจวบคงไม่พลาดที่จะแวะมายังซื้อผ้าสวย ๆ ฝีมือประณีตที่นี่
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ อุทยานวิทยาศาสตร์
ที่หว้ากอคือสถานที่ประวัติศาสตร์ในด้านวิทยาศาสตร์ของไทย เริ่มจากอาคารดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์กันก่อน ที่นี่สร้างเป็นอาคารแฝดจำนวน 3 หลัง7 ชั้นที่มีทางเดินทอดเชื่อมถึงกัน นอกจากความงามของตัวอาคารแล้วยังจัดแสดงนิทรรศการดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และอวกาศ และเทคโนโลยี มีการแสดงพระอัจฉริยภาพของรัชกาลที่ 4 พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย หน้าอาคารมีอาคารจำลองแบบจากหอดูดาวชัชวาลเวียงชัย เพชรบุรี และใกล้ ๆ กันก็ยังมีอาคารหอดูดาวด้วย ถัดมามีโซนสวนผีเสื้อให้ได้ชมผีเสื้อหลากชนิดหลากสีสัน ไฮไลท์อีกอย่างนั้นอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอที่รวบรวมสัตว์น้ำจืดและนำเค็มเอาไว้จัดแสดงในรูปแบบที่สวยงาม เที่ยวชมไดอย่างเพลิดเพลิน ภายในนั้นแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ 6 โซนด้วยกันคือ โซนอัศจรรย์โลกสีคราม โซนจากขุนเขาาสู่สายน้ำ โซนสีสันแห่งท้องทะเล โซนเปิดโลกใต้ทะเล โซนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และส่วนปฏิบัติการ พิพิธภัณฑ์ แห่งนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองวาฬ
ด่านสิงขร
หนึ่งเดียวในดินแดนไทย ส่วนที่แคบที่สุดของประเทศ ตรงคอคอดกระ ณ ที่นี้มีด่านสิงขรเป็นเหมือนประตูเปิดปิดกั้นเขตแดนไทยพม่า เรียกกันว่าชายแดนข้ามคาบสมุทร เพราะความที่เป็นทางแคบของอ่าว ทำให้เป็นแนวการเดินทางข้ามจากอ่าวไทยไปยังฝั่งทะเลอันดามันทางประเทศพม่า ในอดีตบริเวณนี้เป็นสถานที่ ที่พม่าใช้เป็นเส้นทางเดินทัพเข้ามาสู่ดินแดนไทยด้วย เปิดเป็นจุดตลาดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินดูจับจ่ายสินค้านำเข้าและของพื้นบ้าน จากพม่าและจากเมืองจีนน เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าชั่วคราว ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวัน แต่ในวันเสาร์จะเป็นวันพิเศษที่ผู้คนคึกคัก หากได้แวะมาวันเสาร์จะเหมาะกับการเดินเลือกซื้อของเพราะเป็นวันผ่อนปรนที่อนุญาตให้ชาวพมานำสินค้าเข้ามาขายได้อย่างเสรี ภายในตลาดจะแบ่เป็นโซน มีภาษาพม่าติดป้ายสื่อสารไว้เป็นระยะด้วย
ถ้ำพระยานคร
ถ้ำพระยานครแห่งนี้เป็นถ้ำสวยงามอีกแห่งที่น่ามาเยือน เป็นถ้ำที่ถูกค้นพบเมื่อ 200 ปีก่อน มีพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ เป็นพลับพลาจตุรมุข โบราณสถานสำคัญในสมัยรัชกาลที่ 5 สัญลักษณ์ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพดานถ้ำหากมองจากด้านในตัวถ้ำจะเห็นเป็นลำแสงส่องจากด้านบนที่เป็นช่องเพดานลงมา ตกกระทบสวยงามมาก ถ้ำแห่งนี้ยังเป็นที่ๆ พระมหากษัตริยทั้งสามพระองค์เคยเสด็จมาเยือน คือรัชกาลที่ 5 รัชกาลที่7 และในหลวงรัชกาลปัจจุบัน และมีลสายพระหัตถ์ของรัชกาที่ 5 และรัชกาลที่7 ที่ทรงจารึกไว้อีกด้วย ทางขึ้นมายังเขาแห่งน้าจากทางหาดแหลมศลาประมาณ 400 เมตรกว่า ๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง
เขาช่องกระจก
ที่มาของชื่อเขาช่องกระจกนั้นเป็นความอัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่เกิดการทะลุของหินบนส่วนหนึ่งของยอดเขาเป็นช่องสี่เหลี่ยมคล้ายรูปกระจก เมื่อมองทะลุช่องเขาไปจะเห็นวิวสวยเบื้องล่างของอ่าวประจวบเป็นรูปโค้ง บนยอดเขาช่องกระจกยังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองและพระบรมสารีริกธาตุให้ได้ขึ้นไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล มีพระรูปของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นอกจากนั้นบนยอดเขาช่องกระจกยังมีต้นพระศรีมกาโพธิ์ ที่ได้หน่อมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์จากพุทธคยาซึ่ง พระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีทรงเสด็จมาปลูกด้วยพระองค์ฌองในปี พ.ศ. 2501 ด้วย ชิงเขาอันเป็นที่ตั้งของเขาช่องกระจกนั้น มีวัดที่ชื่อว่าวัดธรรมิการามววิหาร ที่เชิงเขายังมีถ้ำพระ ถ้ำสุขสันต์-เจริญธรรม ระหว่างทางขึ้นมีถ้ำลิงและถ้ำค้างคาว ทางเดินขึ้นไปยังเขาช่องกระจก เป็นทางบันไดสีขาวมองลงมาจะเห็นความสวยงามของ อ่าวประจวบ ทิวเขาตะนาวศรี เขาล้อมหมวก เขาตาม่องล่าย และยังเห็นตัวเมืองประจวบได้เกือบทั่วเมืองทีเดียว
เกาะทะลุ
เกาะทะลุเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอย่างแท้จริงของผู้ที่รักธรรมชาติ ที่เกาะทะลุมีสันสันการพักผ่อนที่ผู้มาเยือนจะต้องประทับใจ ที่นี่เป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียง ด้วยแนวปะการังงดงามกว่าที่อื่น ๆ ไม่แพ้ทะเลแถบอันดามันทีเดียว นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวจะได้ตื่นเต้นกับการเฝ้ารอชมฝูงปลาโลมา ปลาวาฬรูด้า ฉลามวาฬ และเต่าทะเล ซึ่งมีอาศัยอยู่ชุกชุมในบริเวณรอบ ๆ เกาะ นอกจากกิจกรรมดำน้ำที่เป็นไฮไลท์ของเกาะทะลุแล้ว ยังมีได้เพลิดเพลินกับการตกปลา ตกปลาหมึ และนั่งเรือล่องรอบเกาะไปยังเกาะเล็ก ๆ รอบ ๆ ด้วย ทั้งสังห์ เกาะเวียง เกาะสิงห์ เกาะพระ และเกาะยอ เกาะทะลุตั้งอยู่ในเขตตำบลทรายทอง อำเภอบางสะพานน้อย ห่างจากกรุงเทพเป็นระยะทางประมาณ 400 กม. การมายังเกาะทะลุต้องนั่งเรือจากท่าเรือหาดแหลมสนบางสะพานน้อยมาประมาณ 30 นาที
ตัวเมืองหัวหิน
ลุยที่เที่ยวหัวหินกันดีมั้ย?เพราะไม่มีใครที่ไม่รู้จักหัวหิน แหล่งท่องเที่ยวอันเป็นมนต์ขลังที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองไทย เป็นสถานที่เที่ยวที่คลาสสิคมาตั้งแต่สมัยอดีต และเป็นที่ตั้งของพระราชวัลไกลกังวลที่ในหลวงทรงโรดเสด็จมาประทับบ่อยที่สุด ในอดีตที่พระราชวังแห่งนี้เป็นสถานที่ประทับอันโปรดปรานของรัชกาลที่ 7 และพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระราชินีในรัชกาลที่ 7 ตัวเมืองหัวหินในช่วงวันธรรมดามีความเรียบงง่ายสวยงาม และในช่วงวันหยุดจะคึกคักเป็นพิเศษ มีทั้งแสงสีและธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวพกผ่อนในหลายรูปแบบอย่างเพลิดเพลินทีเดียว ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ เพียงไม่ถึง 300 กม.เท่านั้น
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คงไม่ใช่เป็นเพียงประตูผ่านสู่ภาคใต้เพียงเท่านั้น หากแต่ความงามตรึงใจ และเสน่ห์แห่งที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์หลากรสชาติ หลากสีสัน ชวนให้ประจวบคีรีขันธ์ เป็นจุดหมายหนึ่งที่นักท่องเที่ยวปรารถนามาเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ให้ได้ซักครั้งในชีวิต