15 ที่เที่ยวอุบลราชธานีสวยๆ ในเมือง ธรรมชาติ น้ำตก
เที่ยวอุบลราชธานีดินแดนตะวันออกสุดของเมืองไทย จังหวัดในดินแดนภาคอีสานแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและโรแมนติกอยู่มากมาย สำหรับใครที่ชอบการท่องเที่ยวไปในสถานที่สวย ๆ และน่าตื่นตาตื่นใจกับความอัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่เที่ยวอุบลราชธานีน่าจะเป็นจุดหมายปลายทางที่เติมเต็มความรู้สึกอิ่มใจ สุขใจ และประทับใจได้ไม่น้อย สถานที่ที่กล่าวถึงนั้นมีสถานที่ใดบ้างไปสำรวจด้วยกัน
เนื้อหาในหน้าเพจนี้
แก่งหินงาม หาดชมดาว
อัศจรรย์ธรรมชาติที่แก่งหินงามแห่งนี้เป็นเนื้อที่กว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยหินขนาดใหญ่และลานหินรูปร่างแปลก ๆ มากมาย มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ที่มองไปเห็นความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ แก่งหินเว้าแหว่งและรูปทรงแปลกของหินเกิดจากการกัดเซาะและกร่อนของแม่น้ำโขง กลายเป็นประติมากรรมสร้างสรรค์ จุดชมแก่งหินงามที่น่าสนใจคือ ก้อนสามเส้า ถ้ำตามา ถ้ำตาอ้วน ผาวัดใจ แก่งหินงาม แกรนแคนยอนนาตาล ไฮไลท์จะอยู่ที่แก่งหินงามและหาดชมดาวเป็นจุดที่สวยที่สุด ตรงแก่งหินงามจะมีหินชมนภา เป็นหินขนาดใหญ่สองฝั่งที่มีส่วนช่องแคบตรงกลาง เมื่อมองลงไปจะเห็นน้ำใสสะท้อนให้เห็นท้องฟ้าเบื้องบนสวยงามมากจึงเป็นที่มาของชื่อ หาดชมดาวจะมีลักษณะความสวยงามที่ต่างออกไป เพราะเป็นชายหาดริมแม่น้ำโขงที่มีทรายละเอียดทอดยาวขนาดไปกับแม่น้ำโขงมองเห็นฝั่งประเทศลาว โดยเฉพาะในช่วงเช้าก่อน 8 โมงและเย็น วิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกสวยงามตรึงใจ
การเดินทางไปยังแก่งหินงาม หาดชมดาว อยู่ที่อำเภอนาตาลจากจุดจอดรถที่ศาลาของต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 1 กม.ช่วงเวลาที่มาเที่ยวได้คือ เดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม เพราะในฤดูน้ำหลากส่วนของพื้นที่นี้จะจมอยู่ในลำน้ำโขง
สามพันโบก
สามพันโบกเป็นลานหินคล้ายกับแก่งหินงาม แต่มีบริเวณที่ไม่กว้างเท่า มีชื่อเสียงมาก่อนแก่งหินงาม คำว่าโบกก็คือแอ่ง ลานหินและแอ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะจมอยู่ใต้ลำน้ำโขงและเผยตัวขึ้นมาในช่วงหน้าแล้ง แอ่งและลานหินมีรูปร่างแตกต่างกันไปและในหลาย ๆ แอ่งและโบกมีรูปร่างเหมือนลวดลาย สิ่งของ และรูปวาดที่คุ้นเคย เหมาะจะไปชมและถ่ายภาพสวย ๆ เก็บไว้ เช่น โบก มิกกี้เม้าส์ โบกหัวใจคู่ โบกหินสุนัข ในบริเวณไม่ไกลจากสามพันโบกยังมีหาดทรายที่เกิดจากตะกอนทับถมริมน้ำโขงที่น่าไปเที่ยวชมหลายหาด ทั้งหาดสลึง หาดหงส์ หาดศิลาเลข มีเลขที่ชาวฝรั่งเศสสมัยก่อนเมื่อครั้งปกครองประเทศลาวมาเขียนไว้เพื่อวัดบอกระดับน้ำโขง สะดวกในการวัดระดับเพื่อแล่นเรือเข้า ปากบ้องเป็นส่วนที่แคบที่สุด มีความกว้าง 56 เมตร ชมวิถีชีวิตชาวบ้านที่ยังคงใช้เครื่องดักปลาแบบครั้งโบราณ หินหัวพะเนียงเป็นหินที่ตั้งขวางลำน้ำโขงให้แยกเป็น 2 ทาง หากต้องการชมจุดอื่น ๆ ในบริเวณสามพันโบกที่กล่าวมา นอกจากการขับรถมายังสามพันโบกและเดินชมลานหินและโบกต่าง ๆ ก็สามารถว่าจ้างเรือจากจุดสามพันโบกเพื่อล่องชมในจุดอื่นๆ ได้ด้วย สามพันโบกตั้งอยู่ที่บ้านสองคอน เข้าไปจากตัวหมู่บ้านเป็นระยะทางประมาณ 3 กม.
ป่าดงนาทาม
หลายคนคงจะเคยเดินป่าชมธรรมชาติท่องเที่ยวกันมาบ้างแล้ว แต่การเดินป่าท่องเที่ยวในป่าดงนาทามมีความพิเศษที่แตกต่างจากการเดินป่าชมธรรมชาติที่อื่น ๆ เพราะที่ป่าดงนาทาม เป็นทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ การเดินป่าชมทุ่งครั้งนี้จึงเป็นการเดินชมทุ่งดอกไม้ ที่มีดอกไม้หลากหลายพันธุ์ เช่น แดงอุบล หยาดน้ำค้าง เอนอ้า เหลืองพิสมร และยังมีทุ่งดอกไม้ชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระบรมราชินีนาถด้วย ซึ่งมีดอกไม้สวย ๆ ละลานตาให้แวะถ่ายรูปเก็บภาพสวย ๆ เป็นทุ่งดอกไม้ที่เป็นธรรมชาติทั้ง ดอกสร้อยสุวรรณา ทิพเกสร มณีเทวา สรัสจันทร ในยามเช้ามีทะเลหมอกสวยตรงริมโขงและวิวพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทุ่งดอกไม้ และยังมีน้ำตกน้อยใหญ่ ที่มีน้ำมากในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม ส่วนในหน้าแล้งก็มีความสวยงามที่น่ามาเที่ยวแตกต่างออกไป นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิวสวยของทุ่งหญ้าและป่าไม้เปลี่ยนสี ดอกไม้ที่บานในหน้าแล้งพันธุ์ต่าง ๆ เช่น ตะแบกเลือก พุดผา รัง ช้างน้าว ทริปสำคัญก็คือการล่องเรือชมทิวทัศน์และสัมผัสบรรยากาศสองลำโขงในระยะทางไปกลับบ้านปากลา-คันท่าเกวียน หากใครต้องการพักค้างแรมท่ามกลางทุ่งดอกไม้ป่าก็สามารถติดต่อสถานที่กางเต้นท์พักแรมได้ด้วย ป่าดงมอยู่ในอำเภอโขงเจียม
ผาชะนะได
ความพิเศษของผาชะนะไดก็คือ การได้มาเห็นแสงแรกของดวงอาทิตย์ก่อนใครในประเทศไทย ซึ่งหลายคนอาจจะเคยคุ้นหูจากการประกาศของกรมอุตุนิยมถึงเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นวัดได้ที่ผาชะนะไดแห่งนี้ เพราะ ณ จุดผาชะนะได้เป็นจุดชมดวงอาทิตย์ในทิศตะวันออกที่สุดของเมืองไทย ความงามของทัศนียภาพ ณ ผาชะนะไดแสนสวยด้วยลำน้ำโขงเบื้องล่างและเทือกเขาแดนลาวที่มีทิวเขาสลับซับซ้อนระบายไปด้วยทะเลหมอกในยามเช้า ที่บริเวณผาชนะไดยังมีจุดท่องเที่ยวบรรยากาศดีๆ วิวสวย ๆ อีกคือเสาเฉลียงคู่ที่มองดูเหมือนยักษ์สองตนยืนคู่กันอยู่ น้ำตกห้วยพอก เป็นน้ำตกที่สามารถลงเล่นน้ำได้ ในบริเณน้ำตกแห่งนี้มีลานกางเต้นท์ด้วยและมีพันธุ์ไม้หายากอย่างเอื้องนวลจันทร์ขึ้นทั่วบริเวณ
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานีที่มีชื่อเสียง สวยงามและมีคุณค่ามาก อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว้างครอบคลุมอำเภอโขงเจียม อำเภอโพธิ์ไทร และอำเภอศรีเชียงใหม่ เยือนทุ่งดอกไม้ และผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์แหล่งอาศัยของสัตว์ป่านานนาพันธุ์ หน้าผาและน้ำตก ไฮไลท์อยู่ที่จุดที่มีชื่อเสียงที่สุดของผาแต้มคือภาพเขียนสีของคนโบราณก่อนประวัติศาสตร์กว่า 4000 ปี ตามหน้าผาของผาแต้ที่ทอดยาว ใต้หน้าผาจะปรากฎภาพเขียนสีกระจายอยู่เป็นระยะในภาพเหล่านั้นมีกลุ่มภาพเกี่ยวกับเครื่องมือเครื่องใช้โบราณ สัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ และภาพสัญลักษณ์โบราณ จุดชมภาพเขียนสีหลัก ๆ มี 4 กลุ่มภาพคือ กลุ่มภาพเขียนสีผาขาม กลุ่มภาพเขียนสีผาแต้ม กลุ่มภาพเขียนสีผาหมอน และกลุ่มภาพเขียนสีผาหมอน ในอุทยานแห่งชาติผาแต้มมีบ้านพัก 6 หลังให้บริการแก่นักท่องเที่ยวพร้อมกับลานกางเต้นท์ด้วย
น้ำตกแสงจันทร์
ประดิษฐกรรมจากธรรมชาติที่สวยอย่างอัศจรรย์ชวนให้มาสัมผัสนี้อยู่ในบริเวณของอุทยานผาแต้มในส่วนของอำเภอโขงเจียม เป็น Unseen Thailand อีกแห่งที่สวยงาม ที่ว่าอัศจรรย์ก็เพราะเป็นน้ำตกที่สายน้ำตกทิ้งตัวลอดผ่านช่องว่างของผาหินลงมายังแอ่งน้ำเบื้องล่าง ในช่วงกลางวันลำแสงของดวงอาทิตย์จะส่องให้เห็นน้ำตกสะท้อนแสงเป็นประกายโปร่งใสราวกับแสงของพระจันทร์ จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกแสงจันทร์ ห่างไปเพียง 2 กม.ก็จะพบกับน้ำตกอีกแห่งคือน้ำตกทุ่งนาเมือง เป็นน้ำตกที่มีอยู่2 แห่งมีขนาดเล็กแต่สวยงามมากการชมน้ำตกทุ่งนาเมืองต้องเดินเท้าลงมาจากผาประมาณ 15 เมตรระหว่างทางมีเถาวัลย์ยักษ์เลื้อยเป็นทางจนมาถึงจุดชมวิวใต้น้ำตก
น้ำตกสร้อยสวรรค์ + ทุ่งดอกไม้สร้อยสวรรค์
น้ำตกและทุ่งดอกไม้ป่าอันสวยงามแห่งนี้อยู่ที่อำเภอโขงเจียมห่างจากตัวอำเภอไปประมาณ 30 กม. ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ทัศนียภาพของน้ำตกสร้อยสวรรค์ไม่เหมือนที่ใด ๆ เพราะเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงที่ตระหง่ายอยู่สองฝั่ง เป็นน้ำที่ไหลมาจากสองทางแล้วมาบรรจบกันก่อนทิ้งตัวแล้วไหลสู่ลำน้ำโขงด้วยความสูงูงประมาณ 20 เมตร เป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดปีแม้ในฤดูแล้ง ตามทางเดินสู่น้ำตกจะพบป่าไผ่สองข้างทางและทางแอ่งน้ำรวมถึงลำธารเล็ก ๆ ก่อนที่จะไปถึงบันไดที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ในระยะทาง 500 เมตร จากต้นน้ำบ่อเกิดน้ำตกสร้อยสวรรค์คือห้วยสร้อยและแซไผ่จะพบกับทุ่งดอกไม้ป่าที่จะพร้อมใจกันออกดอกเบ่งบานานในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม ทั้งดอก มณีเทวา ดุสิตา สร้อยสุวรรณาและหญ้าบัวเต็มทุ่ง เป็นจุดที่เหมาะจะแวะมาชื่นชมและเก็บภาพประทับใจเช่นกัน
น้ำตกห้วยหลวง
น้ำตกแห่งนี้เป็นสวรรค์ของคนที่โปรดปรานการลงเล่นน้ำในสายน้ำเย็น เพราะเป็นน้ำ ตกที่ทิ้งตัวด้วยสายน้ำสูงประมาณ 45 เมตร จากหน้าผาที่โอบล้อมแอ่งน้ำเบื้องล่างไว้ น้ำในแอ่งน้ำใสสะอาดมองดูเป็นสีเขียวมรกต บริเวณรอบ ๆ เป็นหาดทรายขาวละเอียดเหมือนหาดทรายชายทะเล ไม่มีหินคมบาดทำให้เหมาะที่จะเล่นน้ำแบบเป็นส่วนตัวท่ามกลางบรรยากาศเงียบบสงบของผืนป่าในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานไปประมาณ 3.5 กม. ทางลงมายังน้ำตกเป็นบันได 272 ขั้น ไปตามลาดหินที่บางช่วงสะดวกด้วยราวจับและพันธุ์ไม้สองข้างทาง น้ำตกห้วยกลางเลยจากอำเภอนาจะหลวยไปประมาณ 100 กม.
วัดเรืองแสง
บนเนินเขาสูงในอำเภอสิรินธร จะได้พบกับอุโบสถสีปัดทองต้นแบบจากวัดเชียงทองของประเทศลาวที่โดดเด่นอยู่หน้าอุโบสถเป็นจิตรกรรมภาพเรืองแสงของต้นโพธิ์ที่มองแล้วสวยงามน่าประทับใจโดยเฉพาะในยามค่ำคืน ด้านหลังของอุโบสถเป็นทัศนียภาพของจุดชมวิวที่มองไปเห็นแผ่นดินประเทศลาวริมฝั่งโขง วัดแห่งนี้มีชื่อเต็มว่าวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว สถาปัตยกรรมทั้งภายนอกและภายในล้วนาจากศรัทธาในเรื่องราวและสถานที่ทางพุทธศาสนา เสาที่ลงลายด้วยมือ ภาพภายนอกถ่ายทอดเรื่องราวบัวสี่เหล่า ต้นโพธิ์ที่หน้าอุโบสถได้แรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิตในภาพยนตร์เรื่องอวตารประดับด้วยวัสดุฟูออเรสเซนต์ทำให้เรืองแสง เป็นศิลปะสมัยใหม่ที่วิจิตรและร่วมสมัยรวมไปถึงภายในอุโบสถที่ตกแต่งด้วยภาพเขียนลายทองและพระประธานปางสมาธิ ช่วงเวลยามเช้าและเย็นจนถึงดึกเป็นช่วงที่เหมาะจะมาชมความงามของวัดเรืองแสงแห่งนี้ในบางคืนที่ท้องฟ้าเปิดจะมีดวงดาวจำนนมากให้เห็นด้วย วัดเรืองแสงตั้งอยู่ที่อำเภอสิรินธรทางไปช่องเม็กเลยเขื่อนสิรินธรไปราว 2 กม.
วัดพระธาตุหนองบัว
ที่วัดพระธาตุหนองบัวเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ชึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองครบ 25 ศตวรรษแห่งพระพุทธศาสนาในปี 2500 โดยจำลองแบบมาจากเจดีย์พระพุทธคยาแห่งประเทศอินเดีย โดยบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รอบองค์พระธาตุล้อมไปด้วยกำแพงแก้ว พระธาตุที่เห็นอยู่ในปัจจุบันสร้างครอบองค์เดิมไว้เป็นสีขาวที่มีลวดลายทองแสดงถึงพระเจ้าสิบชาติ ต้องเข้าไปภายในจึงจะได้ชมความงามของพระธาตุองค์จริง รอบบริเวณมีหอระฆังและศาลาการเปรียณที่สร้างเป็นสีขาวลายทองเช่นกันมีความสวยงามที่แปลกตาด้วยหลังคาโค้งหน้าลายชฎาและเสามากมายรอบศาลาขนาดใหญ่ ในช่วงกลางคือที่องค์พระธาตุเจดีย์ถูกแสงไฟส่องจะดูงดงามเป็นสีทองอร่าม วัดพระธาตุหนองบัวอยู่เลยตัวเมืองไปประมาณ 4 กม.
วัดประสานสุข + วิหารกลางน้ำ
ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีมาประมาณ 5 กม.ก็จะพบกับวัดประสานสุขหรือวัดบ้านนาเมือง ด้วยพระอุโบสถที่แปลกตาเพราะมีเรือสุพรรณหงส์ใหญ่อยู่ในบริเวณอุโบสถเคียงข้างไปกับพญานาคทั้งสองที่เลื้อยล้อมกำแพงอุโบสถตรงประตู ลวดลายของเรือถูกตกแต่งไปด้วยกระเบื้องเซรามิกหลากสี รวมไปถึงหอระฆังก็ถูกประดับสวยงามด้วยเซรามิกเช่นกัน ด้านหลังของอุโบสถจะมีทางเดินรูปพญานาคลำตัวยาวทอดไปยังวิหารที่ตั้งอยู่กลางน้ำที่ตั้งอยู่บนสถาปัตยกรรมรูปเรือสุพรรณหงส์ข้างในมีพระพุทธรูปให้สักการะ ภายในบริเวณวัดยังมีพิพิธภัณฑ์หลวงปู่บุญมีอดีตพระเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เคารพของชาวอุบลราชธานี ภายในพิพิธภัณฑ์ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่และสรีรังคารของหลวงปูบุญมี
เขื่อนสิรินธร
เขื่อนสิรินธรเป็นเขื่อนใหญ่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีประมาณ 70 กม ใช้ผลิตกระแสไฟและชลประทาน ภายในบริเวณเขื่อนร่มรื่นด้วยสวนและสนามหญ้าเหมาะที่จะเข้ามาเดินเล่นพักผ่อนชื่นชมบรรยากาศ มีสวนสิรินธรที่เต็มไปด้วยต้นไม้มากมาย วังมัจฉามุมให้อาหารปลาเพลิดเพลินและร้านอาหารสวัสดิการภายในให้ได้นั่งรับประทานอาหารอร่อย ๆ กับอากาศดี ๆ ริมเขื่อน
วัดถ้ำคูหาสวรรค์
ณ จุดที่ราบริมฝั่งแม่น้ำโขงอันเป็นที่ตั้งของวัดคูหาสวรรค์ เมื่อมองไปจะได้เห็นทัศนียภาพสวยงามของแม่น้ำสองสีอย่างชัดเจน เป็นช่วงที่ลำน้ำโขงไหลมารวมกับแม่น้ำมูลเป็นภาพที่สวยงมไม่ควรพลาดมาชม นอกจากนั้นยังได้เห็นทิวทัศน์ของฝั่งประเทศลาวและตัวอำเภอโขงเจียมด้วย แวะสักการะพระพุทธรูปภายในบริเวณวัดอันร่มรื่นและในอุโบสถ พระเจดีย์ศรีไตรภูมิ ชมสวนตอไม้และศูนย์อนุรักษ์กล้วยไม้ไทย ถ้ำคูหาสวรรค์ ภายในมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยและสรีระของหลวงปู่คำคนิง จุลมณี พระนักวิปัสสนาผู้ก่อตั้งวัด
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
ธรรมชาติอันสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติตะนะรอให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสกับจุดท่องเที่ยวมากมายน่าประทับใจ และไฮไลท์คือสะพานแขวนคนเดินข้ามแม่น้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย อุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของที่ราบสูงและเนินเขาเตี้ย ๆ ลดหลันกันจุดสูงสุดคือยอดเขาบรรทัด เป็นเส้นทางของแม่น้ำโขงและแม่น้ำมูลจึงทำให้อุดมสมบูรณ์ทั้งพืชพรรณป่าแดง ป่าดิบและสัตว์ป่า ด้วยภูมิประเทศที่มีถ้ำใต้น้ำมากมายทำให้ฝูงปลาชุกชุม ในอุทยานมีแหล่งะท่องเที่ยวที่แนะนำให้ไปเยือนคือ
- ดอนตะนะ ดอนตะนะเป็นเกาะหินที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำมูลมีสะพานทอดข้ามให้เดินไปชทั้งสองด้านของสะพาน ฝั่งเหนือของดอนมีหาดทรายช่วงกลางเป็นป่าชุ่มชื่นที่เดินเล่นสำวจได้ ในตอนเย็นตรงบริเวณดอนตะนะจะได้พบกับชาวบ้านที่มาทำประมงน้ำจืดหาสัตว์น้ำ
- แก่งตะนะ แก่งใหญ่ที่สุดในลำน้ำมูลมีปลาชุกชุม กลางแก่งจะสังเกตเห็นสิ่งก่อสร้างของชาวฝรั่งเศสมัยล่าอาณานิคมตั้งอยู่
- น้ำตกตาดโตน เป็นน้ำตกที่มีความสูงไม่มากแต่มีบริเวณหน้าน้ำตกกว้างไหลลงมายังแอ่งสามารถลงเล่นน้ำได้ รอบ ๆ มีต้นไม้ดอกไม้ใบให้บรรยากาศที่สดชื่นใกล้ชิดธรรมชาติ
- ลานผาผึ้ง ลานหินขนาดใหญ่จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของอุทยานตะนะ ตรงจุดชมวิวนี้มองไปจะเห็นประเทศลาว ในช่วงเดือนตุลคมถึงธันวาคมดอกไม้ป่าจะบานทั่วบริเวณ ทั้งดอกกระดุมเงิน สร้อยสุวรรณา หยาดน้ำค้าง และแววมยุรา
- ถ้ำภูหมาไน ภายในถ้ำมีขุดค้นพบศิลาจารึก แท่นศิวลึงค์และฐานโยนีสร้างในสมัยของพระเจ้ามเหนทรวรมัน สร้างในพุทธศตวรรษที่ 12 แต่ปัจจุบันถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอุบลราชธานี
- น้ำตกรากไทรและผารากไทร สวยงามและแปลกตาไปด้วยน้ำที่ตกลงมาผ่านต้นไม้และรากไทร ทั้งเฟิร์น มอส ตะไคร่น้ำ ทำให้มองเห็นเหมือนม่าน บรรยากาศสบาย เหมาะจะเก็บภาพสวย
- ผาด่าง ไฮไลท์อยู่ที่การค้างคืนตั้งแคมป์ที่นี่ ตื่นเช้ามาจะได้พบกับบรรยากาศและวิวของพระอาทิตย์ขึ้นและจุดชมวิวรอบทิศของหน้าผา ฝั่งขวาจะเป็นวิวของเขื่อนสิรินธร ด้านซ้ายคือผืนป่าของประเทศลาว ด้านหน้าเป็นหมู่บ้านชาวบ้านลาว และสะพานปากเซข้ามแม่น้ำโขง
- สะพานแขวนเป็นสะพานเชื่อมดอนตะนะทั้งสองฝั่งกับที่ทำการมีระยะทางยาวที่สุดของสะพานแขวนคนเดิน มีจุดชมวิวบนสะพานเห็นสองฝั่งของแก่ง เชื่อมด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่
พัทยาน้อย
ห่างจากเขื่อนสิรินธรไปประมาณ 10 กม. มีหาดทรายกว้างทอดตัวยาวไปกลางน้ำซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำ บรรยากาศคล้ายริมทะเลพัทยาแต่เป็นอ่างเก็บน้ำจืดขนาดใหญ่ มีร้านค้ามากมายเรียงรายซึ่งสร้างเป็นเรืองแพเล็ก ๆ หลังคามุงจากเรียงรายกันอยู่ในน้ำ โดยมีแผ่นไม้เป็นทางเดินทอดไปสู่ร้านแพกลางน้ำเหล่านี้ วิวของอ่างเก็บน้ำที่มีบริเวณกว้างจรดกับของฟ้าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่ามาสัมผัส
เมื่อได้มาเที่ยวยังจังหวัดอุบลราชธานีสักครั้งจะพบว่า แม้จะเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในแดนอีสานที่แห้งแล้ง แต่อุบลราชธานีกลับเป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวที่น่าประทับใจและไปต่อกันที่เที่ยวบุรีรัมย์เลยนะ