วันที่โปเกมอนเทรนเนอร์ชาวไทยทุกคนรอคอยก็มาถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2559 Pokemon Go ได้เปิดให้ Download ผ่าน Google Play Store และ iTunes ซึ่งคนไทยสามารถเล่นเกมนี้ได้แล้ว วันนี้เราก็จะมาเปิดข้อมูลเด็ดๆให้โปเกมอนเทรนเนอร์ชาวไทยได้เป็นแนวทางในการเล่นเกม Pokemon Go พร้อมกับท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆทั่วโลก
คำถาม-คำตอบยอดฮิตเกี่ยวกับ Pokemon Go ก่อนเริ่มเล่น
- ถาม: Pokemon Go คืออะไร?
- ตอบ: เกมเสมือนจริงที่ผู้เล่นต้องเดินทางไปยังที่ต่างๆเพื่อจับโปเกมอน (ถ้าอยู่กับที่ไม่สามารถเล่นอะไรได้มากนัก)
- ถาม: Pokestop คืออะไร?
- ตอบ: เอาง่ายๆเลยก็คือเสาสีฟ้าๆในเกม Pokemon Go นั่นแหละซึ่งที่นั้นเราสามารถเก็บ Pokeball ฟรีได้ทุกๆ 5 นาที (กดที่เสา -> หมุนๆที่รูป -> เก็บ Items) แถมยังมีโอกาสสุ่มได้ไข่โปเกมอนและไอเทมอื่นๆอีกเพียบ! ถ้ามันกลายเป็นสีม่วงให้รออยู่แถวนั้น 5 นาทีก็จะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเอง
- ถาม: โปเกมอนยิม (Pokemon Gym) คืออะไร?
- ตอบ: โปเกมอนยิม (Pokemon Gym) คือสถานที่ต่อสู้ระหว่างผู้ครองโปเกมอนยิมปัจจุบันกับเหล่าโปเกมอนเทรนเนอร์ ซึ่งคุณสามารถนำโปเกมอนที่มีอยู่ไปท้าสู้กับทุกยิมได้เลยล่ะ เมื่อเอาชนะได้ก็จะได้รับค่าประสบการณ์ (EXP) รวมไปถึง Items ต่างๆด้วย
- ถาม: Pokemon 1 ตัวมีได้กี่สกิล?
- ตอบ: โปเกมอน 1 ตัวจะมีสกิลได้ 2 สกิลคือ 1 สกิลปกติ 2 สกิลพิเศษ(ท่าไม้ตาย) เวลาต่อสู้ในโปเกมอนยิมให้กดที่โปเกมอนรัวๆ(ก็คือใช้สกิลปกติ) จนแถบพลังเต็ม หลังจากนั้นให้กดค้างไว้ก็จะเป็นการใช้สกิลพิเศษ
วิธีแก้ไขปัญหาต่างๆในเกม Pokemon Go
- ถาม: GPS is not found แก้ไขยังไง?
- ตอบ: เว็บนี้มีภาพวิธีแก้ให้ดู แต่ถ้าใครทำตามเสร็จเรียบร้อยแล้วยังไม่ได้วิธีแก้ก็คือเปิดกระจก(สำหรับคนอยู่ในรถ) ส่วนคนที่ไม่ได้อยู่ในรถแสดงว่าพื้นที่ที่เราอยู่อาจจะมีเคลื่อนสัญญาณไม่ค่อยดี ต้องเดินทางหาสัญญาณอื่นๆ
- ถาม: Failed to detect location pokemon go แก้ไขยังไง?
- ตอบ: เอาเครื่องหมายเช็คถูกออกตามภาพ
วิธีเล่น Pokemon Go ตามแนวทางของโปเกมอนเทรนเนอร์มือโปร
1. ปิดระบบ AR (ตรงมุมขวาบนของจอ) ช่วยให้การจับโปเกมอนง่ายขึ้น
ถึงแม้ว่าการจะจับ Pokemon ด้วยระบบ AR จะเป็นส่วนที่ทำให้เกมสนุกยิ่งขึ้นโดยเฉพาะตอนที่โปเกมอนไปโผล่ในที่ที่ปกติไม่ค่อยจะมีอะไรน่าสนใจ (หรืออันตราย) แต่ว่าสำหรับเทรนเนอร์ที่อยากเน้นจับโปเกมอนให้ได้แนะนำว่าปิดระบบ AR เถอะ! เพราะในบางครั้งเราไปส่องกล้องใส่คนแปลกหน้าซึ่งเขาก็จะมองเราแปลกๆ และคงไม่มีใครอยากให้เอากล้องมาส่องหน้า จริงมั้ย?
2. จับโปเกมอนใกล้ๆพื้นที่ที่อยู่ก่อน
ก้าวแรกของซาโตชิก็เริ่มจากโปเกมอนใกล้ๆตัวซึ่งหลายๆตัวก็ถือว่าเก่งและสามารถนำไปต่อสู้ได้ วิธีการดูว่าโปเกมอนใกล้ๆตัวมีอะไรบ้างก็คือ มุมขวาล่างของจอ จะมีรูปเงาๆของโปเกมอน ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้โปเกมอนจะต้องรู้แน่ๆว่ามันคือตัวไหน 🙂 หลังจากเจอโปเกมอนใกล้ๆแล้ว (สมมติรู้แล้วว่าตัวไหนเป็นตัวไหน) ให้คลิ๊กตัวที่เราอยากได้จะช่วยเพิ่มโอกาสเจอโปเกมอนตัวนั้นๆได้ (เป็นความเชื่อต้องพิสูจน์)
3. อธิบายเรื่องค่า CP
CP หรือค่า Combat Power เป็นตัวเลขที่ใช้วัดพลังของแต่ละ Pokemon ซึ่งถ้าเก็บ EXP ไปเรื่อยๆและอัพเลเวลของโปเกมอนค่า CP ก็จะสูงขึ้น
ในตอนนี้เหล่าโปเกมอนเทรนเนอร์ทั่วโลกกำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับค่า CP กันอยู่ และมีอีกหนึ่งข้อสังเกตก็คือครึ่งวงกลมด้านบนของจอภาพ เราจะมองเห็นส่วนที่เป็นเส้นขีดหนาๆคือ CP ปัจจุบันส่วนจุดสุดท้ายของครึ่งวงกลมก็คือ CP สูงสุดที่โปเกมอนตัวนั้นๆจะเป็นได้ และที่สำคัญก็คือ Pokemon ตัวเดียวก็อาจจะมีค่า CP ต่างกันก็ได้
เมื่อคุณอัพเลเวล (Power Up) หรือพัฒนาร่าง (Evolve) ของโปเกมอน โปเกมอนเทรนเนอร์ทั่วโลกเชื่อกันว่าถ้าเรา Power Up โปเกมอนก่อนจะที่นำไป Evolve จะช่วยให้ค่า CP สูงกว่าเดิม (แต่ยังไม่มีใครกล้ายืนยันเรื่องนี้ได้ ต้องพิสูจน์เอง)
***ป.ล. ดูเหมือนว่าน้ำหนัก/ขนาดของโปเกมอนจะมีส่วนเพิ่มหรือลดค่า CP, HP(เลือด), Dodge Speed (หลบหลีก) และก็อีกเช่นเคยเป็นความเชื่อ!
4. ตรวจเช็คสกิลเริ่มของโปเกมอนที่จับได้ด้วยล่ะ
สมมติว่าเราจะ Staryu ได้ 2 ตัว ตัวแรก CP 70 อีกตัว CP 90 หลายคนคงจะคิดว่า CP 90 เทพกว่าจริงไหม? แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่เพราะว่าตัว CP 70 ดันมีสกิล Water Gun + Psybeam แต่ตัวที่ CP 70 มีแค่สกิล Tackle + Body Slam ดังนั้นให้เลือกโปเกมอนตัวที่มีสกิลเริ่มต้นดีกว่า
ต่อไปวิธีเช็คว่าสกิลไหนแรงไม่แรงก็สามารถดูได้จากตัวเลขหลังสกิล ส่วนแถบสีฟ้า ยิ่งแถบเยอะยิ่งแสดงว่าสกิลนั้นใช้ได้บ่อยแค่ไหน บางสกิลใช้ได้ถี่ๆแต่ความแรงไม่มาก แต่บางสกิลแรงมากแต่นานๆทีจะใช้ได้
5. จะฟักไข่โปเกมอนยังไง? แล้วอะไรคือ Kilometer?
เมื่อเข้าไปที่หน้าจอ Pokestops หลายคนอาจจะเลือกไข่โปเกมอนมา แต่ก่อนหน้านั้นจะต้องฟักไข่ก่อน ซึ่ง Kilometer คือจำนวนระยะทางที่คุณต้องเดินทางเพื่อให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัว
เทคนิคที่ควรรู้
- อย่าฟักไข่ 2K เพราะส่วนมากจะเป็นโปเกมอนทั่วๆไป ให้ฟักไข่ K เยอะๆ
- นอกจากการเดิน(จริงๆ) สามารถขี่จักรยาน,นั่งมอเตอร์ไซต์,รถยนต์,รถไฟ ได้หมด โดยตัวเกมจะไม่มาจับผิดว่าคุณเดินจริงหรือเปล่า (แต่ต้องเดินทางด้วยความเร็วไม่เกิน 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง)
- ที่ฟักไข่ได้มาจากการซื้อด้วยเงินจริงหรืออาจจะสุ่มได้ที่ Pokestops (ยาก) คุณสามารถหาที่ฟักไข่ได้มากขึ้นเมื่อเลเวลสูงๆ และจำไว้อย่างว่า Pokestops จะรีเจนใช้เวลา 10-15 นาที ซึ่งถือว่าค่อนข้างเร็วสำหรับ Free Player
6. พื้นฐานเรื่อง Pokeball
วิธีการจับโปเกมอนก็คือโยน Pokeball ไปที่โปเกมอนตัวนั้นๆซึ่งจะมีโบนัส EXP ถ้าเราโยนแบบเทพๆ วิธีโยน Pokeball ก็คือ
- แตะที่ Pokeball ค้างไว้
- หมุน Pokeball ตามเข็มนาฬิกาหรือทวนเข็มนาฬิกา
- รอจนแสงสว่างขึ้นแล้วโยนไปได้เลย
- รับโบนัสจากการโยน Pokeball แบบเทพ
แต่เด๋วก่อนมันยังมีเทคนิคอื่นๆอีก เพราะเมื่อคุณโยน Pokeball ไปแล้วการหมุนตามเข็มนาฬิกาหรือทวนเข็มจะส่งผลกับทิศทางของ Pokeball ซึ่งต้องสังเกตและจับจังหวะกันให้ดีๆ
7. Razz Berry ช่วยให้จับโปเกมอนง่ายขึ้น
วิธีใช้ Razz Berry ก็ง่ายๆเลยคือใช้เพื่อดึงดูดความสนใจของ Pokemon หลังจากนั้นก็ใช้ Pokeball โยนจับแบบปกติ
8. วิธีเก็บ EXP เกม Pokemon Go ให้เร็วๆ
วิธีเก็บ EXP ที่ดีที่สุดก็คือการจับ Pokemon เลเวลต่ำๆ คำนวนจำนวน Candy ที่ต้องใช้ในการพัฒนาร่าง และรอให้ Candy มีพอที่จะพัฒนาร่างโปเกมอนพร้อมๆกันทั้งหมด
9. วิธี Transfer โปเกมอนใน Pokemon Go
- เลือก Pokemon ในแถบเมนู
- เลื่อนลงมาใต้ข้อมูลโปเกมอน
- เลือกแถบ Transfer
เมื่อ Transfer โปเกมอนเสร็จเราจะได้รับ 1 Candy ซึ่งใช้ในการพัฒนาร่าง
10. EXP ที่เราได้เมื่อทำ Action ต่างๆในเกม
-จับโปเกมอน
- Nice: 10 EXP
- Great: 100 XP
- Excellent: 100 XP
- Curveball: 10 XP
-ฟักไข่โปเกมอน
- 2K: 200 XP
- 5k: 500 XP
- 10k: 1000 XP
-พัฒนาร่างโปเกมอน: 500 XP
-จับโปเกมอนใหม่บันทึกลงใน Pokedex: 500 XP
-ตรวจเช็ค Pokestop: 50 EXP หรือ 100 EXP (ถ้ามากกว่า 6 ชิ้น)
-ฝึกโปเกมอนที่ Pokemon Gym: ขึ้นอยู่กับการฝึก
-ต่อสู้โปเกมอนที่ Pokemon Gym: ขึ้นอยู่กับชัยชนะ
-ส่วน Level Max ของเกม Pokemon Go ตอนนี้จะอยู่ที่ LV 100 ซึ่งจะได้ไอเท็มพิเศษต่างๆมากมาย
11. สถานที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้เจอ Pokemon ชนิดต่างๆ รวมถึงค่า CP ที่แตกต่าง
ซึ่งเกม Pokemon Go ได้สร้างให้เหมือนการใช้ชีวิตจริงๆ สมมติคุณอยากได้ คอยคิง (Magikarps) เพื่อพัฒนาร่างเป็น เกียราดอส (Gyrados) คุณต้องไปหาตามสถานที่ที่เป็นแม่น้ำ จะมีโอกาสเจอ เช่นเดียวกันกับโปเกมอนธาตุอื่นๆ
12. อย่าลืมเปลี่ยนชื่อร่างพัฒนาของอีวุย (Eevee)
- ถ้าอยากได้อีวุยธาตุไฟ(Fire Eevee)ให้เปลี่ยนชื่อเป็น “Pyro”
- ใครชอบอีวุยธาตุน้ำ(Water Eevee)เปลี่ยนชื่อเป็น “Rainer”
- ส่วนใครชอบอีวุยสายฟ้า(Electric Eevee)ให้เปลี่ยนเป็น “Sparky”
13. วิธีจับ Pikachu ใน Pokemon Go
วิธีจับ Pikachu ใน Pokemon Go ก็คือตอนเริ่มเกมจะมีให้เลือก 3 ตัว (ตามเนื้อเรื่อง) แต่เราต้องไม่เลือกซักตัวแล้วเดินต่อไปก็จะเจอ Pikachu ให้จับเอง
14. อดทนรอ!
อย่าเพิ่งพัฒนาร่าง Pokemon ทุกตัวที่จับได้เพราะมีแนวโน้มสูงมากว่าผู้สร้างเกมจะมีโปเกมอนแบบพัฒนาร่างให้จับได้ หมายความว่าคุณอาจจะจับเกียราดอสได้โดยไม่ต้องจับคอยคิง
วิธี download เกม Pokemon Go
ทีมงานเชื่อจริงๆว่า 14 เทคนิคเหล่านี้จะทำให้ผู้อ่านทุกคนได้ท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆทั่วโลกเพื่อสัมผัสและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิต พร้อมทั้งจับโปเกมอนในเกม Pokemon Go ไปพร้อมๆกัน