เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นกับร่างกายเรา คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนอาจจะเกิดความสงสัยว่าตอนนี้เราท้องหรือเปล่า อาการต่าง ๆ ที่แสดงออกมาในช่วงแรก ๆ ทางร่างกายและอารมณ์หลาย ๆ ครั้งก็บ่งบอกได้ไม่ชัดเจนนัก ถ้าต้องการให้แน่ใจว่าท้องหรือไม่ท้องวิธีที่ดีที่สุดก็คือการตรวจตั้งครรภ์ด้วยตัวเองก่อนไปพบแพทย์ค่ะ ระยะเวลาที่จะเริ่มตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่าที่ตรวจตั้งครรภ์ในรูปแบบต่าง ๆ ก็คือ ช่วงที่ตัวฮอร์โมนที่มีชื่อว่า HCG หรือ Human chorionic gonadotropin เกิดขึ้นและมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ฮอร์โมนตัวนี้จะอยู่ในรก จะเกิดขึ้นเมื่อมีกระบวนการฝังตัวของตัวอ่อนเข้าไปในผนังโพรงมดลูกเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งอยู่ที่วันที่ 6-8 หลังจากมีการปฏิสนธิ หรือหลังจากที่ไข่ตกแล้ว1 สัปดาห์โดยประมาณ นั่นก็หมายความว่าเราจะเริ่มใช้ที่ตรวจครรภ์เพื่อตรวจหาฮอร์โมน HCG บ่งบอกการตั้งครรภ์ได้หลังจากไข่ตก 7 วันโดยประมาณนั่นเองค่ะ แต่ว่าการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองจะชัดเจนและแม่นยำในช่วงหลังตั้งครรภ์ได้ 8-12 สัปดาห์ เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมน HCG สูงที่สุด แต่โดยมากแล้วจะตรวจในช่วง 1-7 สัปดาห์ก็ได้ค่ะ ถ้าจะให้ดีการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองควรทำหลังจากประจำเดือนขาด 10-14 วันขึ้นไปเพราะเป็นช่วงที่ให้ผลที่ชัดเจนแม่นยำที่สุดค่ะ ที่ตรวจครรภ์ด้วยตัวเองที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปนั้นเชื่อถือได้และให้ความแม่นยำที่แพทย์ยอมรับถึง 90% เพียงแต่ต้องใช้ตามคู่มือที่แนบมาให้ถูกวิธีและแปลค่าให้ถูกตามกำหนดที่แนบมา
สำหรับอุปกรณ์และวิธีการที่ใช้ในการตรวจตั้งครรภ์มีอยู่หลายแบบ ที่มีขายและนิยมใช้กันโดยทั่วไปในบ้านเรานั้นมีด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่
เนื้อหาในหน้าเพจนี้
1. แบบที่ใช้วิธีการหยด หรือแบบตลับ ( pregnancy Test Cassette )

ในชุดที่ตรวจตั้งครรภ์แบบตลับหรือแบบวิธีหยดนี้จะมีอุปกรณ์มาให้ 3 ชิ้นค่ะ คือตลับใช้ทดสอบผลการตั้งครรภ์ หลอดดูดและหยดปัสสาวะ และถ้วยตวงปัสสาวะ วิธีใช้ก็คือให้นำปัสสาวะจำนวนหนึ่งไว้ในถ้วยตวงที่เตรียมไว้ แล้วใช้หลอดดูดน้ำปัสสาวะมาในปริมาณพอควร หยดลงไปในตลับที่ให้มาประมาณ3-5 หยด โดยวางตลับในแนวระนาบกับพื้น จากนั้นก็ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ก็จะทราบผลของการทดสองโดยอ่านความหมายการแปลผลได้จากคู่มือที่ให้มา ที่ตรวจตั้งครรภ์ชนิดนี้เป็นชนิดที่นิยมใช้เพราะไม่ต้องกลัวการผิดพลาดจากการเสื่อมของเครื่องมือแถบในตลับหรือความเลอะเทอะระหว่างทดสอบค่ะ แต่ข้อควรระวังก็คือ การอ่านผลของการทดสอบควรใช้ระยะเวลาตามที่ระบุมาในคู่มือนะคะ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดความคลาดเคลื่อนในการแปลผลได้ค่ะ
2. แบบก้านใช้จุ่ม (Test Strip)

ที่ตรวจตั้งครรภ์ในแบบก้านจุ่มนี้ก็ใช้ได้ง่ายไม่ยุ่งยากเช่นกันค่ะ ในชุดจะมีอุปกรณ์มาให้สองชิ้นก็คือ ก้านจุ่มที่ใช้แปลผลการทดสอบการตั้งครรภ์ และถาดถ้วยตวงปัสสาวะ วิธีการก็คือให้เก็บปัสสาวะในถ้วยตวงในปริมาณพอเหมาะ จากนั้นก็ใช้ก้านกระดาษที่มีให้มาเลือกด้านที่มีสัญลักษณ์ลูกศรหัวชี้ลงจุ่มลงไปในถ้วยตวงที่เตรียมไว้แล้ว ใช้เวลาเพียง 3 วินาทีก็หยิบขึ้นมาได้แต่ต้องระวังให้น้ำปัสสาวะอยู่ในระดับพอดีกับขีดที่กำหนดมา ไม่เกินขีดหรือต่ำกว่าขีดีดจนเกินไปค่ะ จากนั้นก็นำออกมาวางไว้ในแนวนอนราบในพื้นที่แห้งอย่าให้โดนน้ำอีก ใช้เวลารอผลประมาณ 5 นาที จากนั้นก็จะปรากฏผลขึ้นมา ที่ตรวจการตั้งครรภ์ชนิดนี้มีราคาถูกกว่าแบบแรก ใช้สะดวก แต่ก็ต้องระวังไม่ให้ก้านสัมผัสของเหลวหรือชื้นในส่วนที่ไม่ได้กำหนดมา เพราะจะทำให้เสื่อมสภาพและใช้งานไม่ได้นะคะ
3. แบบแท่งทดสอบให้ปัสสาวะผ่าน
ชนิดที่สามที่นิยมและใช้กันในการตรวจการตั้งครรภ์ก็คือ ที่ตรวจการตั้งครรภ์แบบแท่ง ใช้การปัสสาวะผ่านเพื่อตรวจ ในชุดจะมีอุปกรณ์มาใช้ชิ้นเดียวค่ะ วิธีการใช้ก็จะง่ายที่สุดถ้าเทียบกับทุกแบบ เพียงแต่ถอดฝาด้านหนึ่งที่ครอบตัวแท่งอยู่ออก จากนั้นจับแท่งด้านบน ชี้ด้านหัวลูกศรลง แล้วปัสสาวะผ่านในจุดรองรับน้ำปัสสาวะของแท่งทดสอบบเพียง 5 วินาที จากนั้นก็ถือแท่งทดสอบนั้นไว้ให้ราบขนานพื้น รอผลการทดสอบประมาณ30 วินาที ถึง 5 นาที แล้วอ่านผลตามคู่มือที่ให้มาค่ะ ที่ทดสอบการตั้งครรภ์ชนิดนี้สะดวกมากแต่จะมีราคาสูงกว่าชนิดอื่น ๆ อยู่เล็กน้อย
รู้จักที่ตรวจครรภ์แต่ละประเภทไปแล้ว ทีนี้เรามารู้จักผลตรวจในแบบต่างๆกันดีกว่าค่ะ
วิธีการอ่านผลของการทดสอบ

- ผลตรวจการตั้งครรภ์แบบทั่วไป
จะมีมาให้ในคู่มือของที่ตรวจตั้งครรภ์อยู่แล้วโดยปกติ แต่ทั่ว ๆ ไปวิธีการอ่านค่าจะคล้าย ๆ กันก็คือ จะมีตัวอักษร 2 ตัวคือ ตัว C หมายถึง Control line และ T คือ Test line ในการอ่านค่าหากมีสีขึ้นในแถบเดียวคือแถบ C การอ่านค่าแปลว่ายังไม่ปรากฏการตั้งครรภ์ หมายความว่าอาจจะตั้งครรภ์แต่ยังไม่ปรากฏ หรือไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ แต่ถ้าปรากฏสีที่สองแถบทั้งแถบ C และ T นั่นแปลว่าคุณกำลังตั้งครรภ์แล้ว แต่ถ้ามีสีขึ้นที่ตัว T เพียงตัวเดียวแสดงว่าการแสดงผลไม่สมบูรณ์แถบอาจจะเสียต้องทดสอบใหม่ในอุปกรณ์ที่ตรวจครรภ์ชุดใหม่นะคะ และต้องไม่ลืมที่จะทดสอบในเวลาที่กำหนดมาด้วย
- หากตรวจแล้วขึ้นขีดจางๆ
ในกรณีที่ตรวจการตั้งครรภ์แล้วขึ้นขีดจางนี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่าจะตั้งครรภ์ เนื่องจากชุดตรวจสอบที่ใช้มีความแม่นยำสูงมากสามารถตรวจฮอร์โมน HCG ปริมาณต่ำได้
- ตรวจแล้วขึ้น 2 ขีดแต่ไม่ท้อง
หากว่าที่คุณแม่ท่านใดตรวจปัสสาวะแล้วผลตรวจออกมาเป็นผลบวกลวงนี้ อาจเกิดได้ในกรณีที่ระบบปัสสาวะอักเสบ มีเลือด หรือ แผ่นทดสอบเสื่อมทำให้ผลที่ออกมาไม่มีความแม่นยำ ส่วนมากมักจะพบในหญิงที่อ้วนมาก หรือหญิงที่เป็นโรคไทรอยด์ นอกจากนี้ยังพบได้ในเคสที่ไข่ผสมกับอสุจิแล้วไม่มีการฝังของตัวอ่อนในมดลูก
- ตรวจขึ้น 1 ขีดแต่ท้อง
ว่าที่คุณแม่บางท่านอาจจะตรวจในช่วงเวลาที่ปัสสาวะเจือจางทำให้ไม่สามารถตรวจพบฮอร์โมน HCG ได้ หรือบางท่านอาจจะตรวจในช่วงท้องอ่อนๆก็ขึ้นขีดเดียวได้เหมือนกัน
ข้อแนะนำในการตรวจ
ในการตรวจการตั้งครรภ์ แนะนำให้ทดสอบในช่วงเช้าไม่เกิน 9 โมงเช้าเพราะเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนจะเข้มข้นและทดสอบได้ง่ายและค่อนข้างชัดเจนค่ะ
เรื่องที่น่าสนใจ
- คนท้องเต้านมจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
- รีวิวชุดตรวจครรภ์
- วิธีตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง
- อาการคนท้อง 1 สัปดาห์
- จะรู้ได้อย่างไรว่าท้อง
- วิธีเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์
- ทำไมต้องฝากครรภ์
- อาหารบำรุงครรภ์
- วิธีรับมือกับอาการแพ้ท้อง
- อาหารที่คนท้องไม่ควรกิน
- นมสำหรับคนท้อง
- ประโยชน์ของน้ำนมแม่
- วิธีลดอาการปวดหลังสำหรับคนท้อง
- การดูแลคนท้อง
- พัฒนาการทารกในครรภ์แต่ละเดือน
- วิธีดูแลลูกในท้องให้แข็งแร็ง
มีบางคนที่ทดสอบแล้ววางทิ้งไว้อีกหลายชั่วโมง จากหนึ่งขีดในที่ตรวจสอบตั้งครรภ์ปรากฏกลายเป็น 2 ขีดก็ทำให้ตกใจว่าตั้งครรภ์หรือไม่กันแน่ ซึ่งที่ตรวจการตั้งครรภ์จะมีเวลากำหนดการอ่านผลมาให้ นอกเหนือเลยเวลานั้นก็ใช้อ่านผลไม่ได้ค่ะจะทำให้สับสนเปล่า ๆ ก่อนตรวจสอบควรจะอ่านวิธีการและคำแนะนำให้ละเอียด และเก็บที่ตรวจสอบไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ ถ้าแกะออกมาแล้วก็ควรจะใช้เลยนะคะเพื่อกันการเสื่อมสภาพค่ะ ในกรณีที่ตรวจสอบแล้วไม่แน่ใจผลและต้องการจะตรวจสอบอีกก็ควรจะเว้นเวลาสัก 2-3 วันค่อยตรวจสอบอีกครั้งค่ะ