เที่ยวเอสโตเนียด้วยตัวเอง ไปเดือนไหนดี ทัวร์คนเดียว
เที่ยวเอสโตเนีย ประเทศในดินแดนแถบยุโรปเหนือ ซึ่งก็เป็นอีกประเทศที่น่าเที่ยวมากเลยทีเดียว โดยประเทศเอสโตเนียนั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของที่ราบยุโรปตะวันออก บนชายฝั่งทะเลบอลติก
คนที่นี่จะใช้ภาษาเอสโตเนียในการสื่อสารเป็นส่วนใหญ่และอาจมีภาษารัสเซียบ้างบางกลุ่ม ซึ่งเสน่ห์ของประเทศเอสโตเนียที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก ก็คือความงดงามแห่งธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่ยังคงมีให้เห็นกันถึงทุกวันนี้นั่นเอง แถมชาวเอสโตเนียก็มีความเป็นมิตรและต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีอีกด้วย ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าประเทศเอสโตเนียมีเมืองไหนน่าเที่ยวและเที่ยวอิตาลีมีสถานที่ไหนน่าสนใจบ้าง
เนื้อหาในหน้าเพจนี้
เมืองทาลลินน์
ทาลลินน์คือเมืองหลวงของประเทศเอสโตเนีย ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ที่สุดในเอสโตเนียกันเลยทีเดียว แถมยังเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดในยุโปรตอนเหนืออีกด้วย โดยเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใฝ่ฝันว่าจะต้องมาชมให้ได้สักครั้ง อาทิเช่น โบสถ์อเล็กซานเดอร์ เนฟสกี้ โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทาลลินน์ และศาลากลางอาคารประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยจารึกเรื่องราวของของกลุ่มชนฮันเซียติก ที่เคยยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยอดีตกาลนั่นเอง นอกจากนี้เมืองทาลลินน์ยังเต็มไปด้วยความงดงามแห่งประวัติศาสตร์ ที่สามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมากอีกด้วย
เมืองปาร์นู
เมืองปาร์นูเป็นเมืองที่มีอาณาเขตติดทะเลอันงดงาม มีชายหาดที่สวยไม่แพ้กับชายหาดพัทยาของเมืองไทยเราเลยทีเดียว ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน ภายใต้บรรยากาศที่เย็นสบายและกลิ่นไอของน้ำทะเลโดยเฉพาะ ซึ่งเมืองแห่งนี้มักจะเป็นที่ฮอตฮิตของนักท่องเที่ยวมากที่สุดในช่วงฤดูร้อน และยังเป็นเมืองท่าทางทะเลของประเทศเอสโตเนียอีกด้วย และไม่เพียงแต่สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองปาร์นูเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีอาหารรสเลิศ ให้คุณได้ลองมาชิมกันด้วย ความอร่อยนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย ได้ชิมแล้วจะต้องติดใจกันอย่างแน่นอน
เมืองตาร์ตู
และก็มาถึงเมืองตาร์ตู เมืองที่ไม่มีใครที่ไม่รู้จักอย่างแน่นอน แถมยังเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นอันดับสองของประเทศเอสโตเนีย ลองจากเมืองทาลลินน์อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพราะเมืองตาร์ตูนั้น เป็นเมืองที่มีความใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเอสโตเนียกันเลยทีเดียว ซึ่งเมืองแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมายและยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง รวมทั้งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งความรู้และวัฒนธรรมอีกด้วย ซึ่งหากจะถามว่ามหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศเอสโตเนียอยู่ที่ไหนนั้น ก็ต้องเป็นที่นี่เลย เมืองตาร์ตูนั่นเอง
เมืองนาร์วา
เมืองนาร์วาก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าเที่ยวไม่แพ้เมืองอื่นๆ ของประเทศเอสโตเนียกันเลยทีเดียว ซึ่งเมืองแห่งนี้มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศเอสโตเนียและยังเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตผ้าฝ้ายและผ้ากระสอบอีกด้วย เมืองแห่งนี้จึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งการอนุรักษ์ เพราะที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สินค้าอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม และการอนุรักษ์ซึ่งวัฒนธรรมอันเก่าแก่ไว้นั่นเอง นอกจากนี้สำหรับใครที่อยากจะสัมผัสกับความเย็นสบาย ชุ่มฉ่ำแล้วล่ะก็ สามารถไปล่องเรือชมสายน้ำที่งดงามและนิ่งสงบของแม่น้ำนาร์วากันได้เลย
เมืองคูเอสซา
เมืองคูเอสซาเป็นเมืองที่มีความเงียบสงบ และมีความเป็นระเบียบ ผู้คนส่วนใหญ่ต่างมีความเป็นมิตรและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งก็ทำให้เมืองคูเอสซาเป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะใครที่ชอบความเงียบสงบ และอยากพักผ่อนท่ามกลางสถานที่อันสวยงดงามและความเป็นส่วนตัวไร้สิ่งใดมารบกวนแล้วล่ะก็ เมืองแห่งนี้ก็น่าจะจดไว้ในบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวของคุณเป็นอันดับต้นๆ เลยล่ะ และอีกสิ่งก่อสร้างหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเพื่อมาเที่ยวชมมากที่สุด ก็คือปราสาทอันงดงาม Kuressaare นั่นเอง ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่มีความงดงามที่สุดในเอสโตเนีย โดยก่อนหน้านี้เคยเป็นปราสาทที่สร้างด้วยไม้ทั้งหมด แต่ต่อมาก็ได้มีการบูรณะฟื้นฟูใหม่ จนกลายเป็นปราสาทที่สวยงาม อลังการ และเป็นที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่
เมืองฮาปซาลู
เมืองฮาปซาลูเป็นอีกเมืองหนึ่งที่จะชวนให้คุณเกิดความหลงใหลในทันทีที่ได้ก้าวเข้ามายังเมืองแห่งนี้ โดยเฉพาะบรรยากาศที่เย็นสบายเหมาะกับการพักตากอากาศเป็นที่สุด ซึ่งที่นี่ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่มีความเงียบสงบ และเหมาะกับการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจหรือเพื่อผ่อนคลายจากความตึงเครียดมากทีเดียว ใครที่อยากมาเที่ยวเพื่อการพักผ่อน ฮาปซาลู ก็เป็นเมืองที่น่าสนใจไม่น้อยเลย และไม่เพียงเท่านี้ แต่ฮาปซาลูยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้เราได้สัมผัสอีกหลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นปราสาทเมืองเก่า ที่เต็มไปด้วยความวิจิตรงดงามแบบสมัยโบราณกาล ซ่อนเร้นไปด้วยวัฒนธรรมอันเก่าแก่ หรือจะเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟ ซึ่งก็มีความน่าสนใจและมีเรื่องราวต่างๆ ให้เราได้เรียนรู้อีกมากมายเลยล่ะ
เมืองวิลยันดี
เมืองวิลยันดี เมืองเล็กๆ บนประเทศเอสโตเนีย ที่ชื่อเสียงและความน่าสนใจนั้นไม่ได้น้อยไปตามขนาดของเมืองเลย โดยเมืองวิลยันดีนั้นเป็นเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของเอสโตเนียที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ก็เพราะเมืองวิลยันดีนั้น เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมากมายหลายแห่ง และยังมีการสืบสานศิลปะวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง อย่างเช่น ปราสาทวิลยันดี ที่ถึงแม้จะเหลือแต่เพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังคงความงดงามและน่าหลงใหลเอาไว้ อุทยานแห่งชาติและทะเลสาบที่มีความสวยงดงามจนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องเดินทางเพื่อมาเชยชมให้ได้สักครั้ง ซึ่งในแต่ละปีก็ได้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมเมืองแห่งนี้เป็นจำนวนไม่น้อยเลย
เมืองวัลกา
เมืองวัลกาเป็นอีกเมืองหนึ่งที่จะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด เมื่อมาเที่ยวเอสโตเนียแล้วก็ต้องผ่านมาเยี่ยมชมเมืองวัลกากันด้วยนะ ถึงแม้ว่าเมืองวัลกาจะไม่ได้มีอะไรที่น่าสนใจและโดดเด่นมากนัก แต่เมืองแห่งนี้ก็มีสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องหยุดเพื่อเคารพและชมความงดงามอันเก่าแก่ของมัน ซึ่งก็คือ ศาลากลางจังหวัดของเมืองวัลกา ประเทศเอสโตเนียนั่นเอง แต่นั่นก็ไม่ใช่เพียงจุดเด่นจุดเดียวเท่านั้น เพราะเมืองแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เย็นสบายและบริสุทธิ์อีกด้วย
เมืองแคร์ดลา
เมืองแคร์ดลา เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรม และมีความงดงามเป็นอย่างมากไม่แพ้เมืองอื่นๆ ในประเทศเอสโตเนียกันเลย โดยเมืองแคร์ดลานั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Keila จึงให้บรรยากาศที่เย็นสบาย และชุ่มชื่นตลอดทั้งปี ชาวเมืองมักจะนิยมปลูกพืชผลทางการเกษตรเป็นหลัก เนื่องจากเจริญเติบโตได้ดีและให้ผลผลิตดีด้วยนั่นเอง นอกจากนี้เมืองแคร์ดลาก็ยังขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารรสเด็ด หลังจากเดินทางท่องเที่ยวกันจนเหนื่อยแล้ว ก็อย่าลืมแวะทานอาหารรสอร่อยของเมืองแห่งนี้กันก่อนด้วยนะ
เมืองปอลวา
และเมืองสุดท้ายที่อยากจะแนะนำกันเลย ก็คือเมืองปอลวานั่นเอง หลายคนที่เคยมาเที่ยวชมความงดงามของสถานที่ต่างๆ ในเมืองปอลวาก็คงจะรู้ดีว่าเมืองแห่งนี้มีความสวยงดงามและน่าเที่ยวมากขนาดไหน ซึ่งที่นี่ก็มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ บรรยากาศที่เงียบสงบ ชาวเมืองที่มีความเป็นมิตรและอาหารสุดอร่อยกันเลย ใครอยากรู้ว่าที่นี่เป็นอย่างไร ต้องลองมาทัวร์กันเองนะ
ประเทศเอสโตเนียก็เป็นอีกประเภทหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีและเป็นประเทศที่มีความเงียบสงบ เหมาะกับการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวจะไปเที่ยวเอสโตเนีย อย่าลืมลิสรายการเมืองเหล่านี้ไว้ในแล็คเชอร์รายการท่องเที่ยวของคุณด้วยนะ ถ้ามาแล้วพลาดเมืองเหล่านี้ไป ก็เหมือนยังมาไม่ถึงเอสโตเนียกันนะ และที่สำคัญเลยอย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าของใช้ต่างๆ ให้เหมาะกับฤดูกาลที่คุณเดินทางไปท่องเที่ยวเอสโตเนียกันด้วย เพื่อความสะดวกสบายและสนุกอย่างไร้กังวลตลอดการท่องเที่ยวนี้นั่นเอง
เที่ยวเอสโตเนียด้วยตัวเอง
เที่ยวเอสโตเนียด้วยตัวเองซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศในกลุ่มรัฐบอลติกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก สำหรับประเทศเอสโตรเนีย ที่เรียกกันว่าเป็นกลุ่มรัฐบอลติกก็เพราะประเทศนี้และเพื่อนๆอีก 2 ประเทศนั้นอยู่เหนือบริเวณทะเลบอลติกนั่นเอง กลุ่มรัฐบอลติก ประกอบด้วย 3 ประเทศคือ เอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนียนั่นเอง ซึ่งประเทศเอสโตรเนียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมโบราณเป็นอย่างมาก ใครที่มีความสนใจทางได้นี้ก็สามารถไปท่องเที่ยวได้แบบไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
เที่ยวเอสโตเนียเดือนไหนดี
สำหรับประเทศเอสโตรเนียนั้นมีสภาพภูมิอากาศแบบเมืองชายทะเลทั่วไปแต่บังเอิญไปตั้งอยู่ในเขตหนาว ดังนั้นอย่าคิดว่าชายทะเลเขาจะร้อนผิวไหม้แบบบ้านเราเป็นอันขาด โดยฤดูกาลของประเทศเอสโตรเนียมีทั้งหมด 4 ฤดูกาลคือ
ฤดูร้อน – แม้ว่าจะเรียกว่าฤดูร้อนแต่อากาศจะค่อนข้างเย็นสบาย มีอุณหภูมิอยู่ที่ 15-25 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง ฤดูร้อนเริ่มต้นในช่วงเดือนมิ.ย.จนถึง กลางหรือปลายส.ค. แน่นอนว่าด้วยความเป็นประเทศติดทะเล ฝนก็ตกค่อนข้างเยอะพอสมควรดังนั้นจึงมีความเฉอะแฉะในช่วงฝนตกอยู่บ้าง
ฤดูใบไม้ร่วง – ฤดูนี้จะเริ่มต้นในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. อากาศจะเริ่มเย็นขึ้นอย่างชัดเจน และอาจจะลดต่ำลงได้ถึง 10 องศาเซลเซียสเท่านั้น
ฤดูหนาว – สภาพอากาศหนาวเย็นปานกลาง ฤดูนี้จะเริ่มต้นในช่วงเดือนพ.ย. ไปจนถึง ม.ค.หรือ ก.พ. ถึงแม้ว่าประเทศนี้จะอยู่ในทวีปยุโรปแต่ก็ไม่ได้มีความหนาวเย็นเท่าหลายๆประเทศในแถบนี้มากนัก แต่สำหรับคนไทยยังไงก็หนาวแน่นอน
ฤดูใบไม้ผลิ – สภาพอากาศเริ่มอู่นขึ้น อุณหภูมิไม่ได้แตกต่างไปจากฤดูร้อนมากนัก และอาจจะมีฝนตกบ้างเล็กน้อย ฤดูนี้จะเริ่มต้นในช่วงเดือน ก.พ. – พ.ค.
การเตรียมตัวเมื่อจะไปเที่ยวเอสโตเนียด้วยตัวเอง
เครื่องแต่งกาย
อย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่าฤดูกาลต่างๆของประเทศเอสโตรเนียนั้นค่อนข้างเย็น ดังนั้นเสื้อผ้าที่สวม ควรเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายและเก็บความร้อน กันความเย็นได้ดีระดับหนึ่ง เสื้อแจ็คเก็ต หมวก ถุงมือ และถุงเท้า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราไปประเทศเอสโตรเนียในช่วงไหนด้วย ควรใส่รองเท้าที่กระชับเท้าและพื้นราบที่สวมสบาย
ทริคที่สำคัญคือให้ใส่เสื้อผ้าหลายชั้นแทนการใส่เสื้อผ้าหนาชิ้นเดียว เพื่อให้สามารถถอดบางชั้นออกได้เพื่อปรับให้เหมาะสมกับอุณหภูมิที่เราเจอในตอนนั้นนั่นเอง
เวลารับประทานอาหาร
ไม่ว่าตอนอยู่ไทยแล้วจะรับประทานอาหารตอนกี่โมงก็ตาม ที่ประเทศเอสโตรเนียนั้นอาหารกลางวันจะเริ่มประมาณ 13.00 น.และอาหารเย็นจะเริ่มประมาณ 19.30 น. ดังนั้นระมัดระวังเรื่องเวลาให้ดีด้วย
หนังสือเดินทางและวีซ่า
หนังสือเดินทางและวีซ่าถือเป็นเอกสารที่สำคัญมากที่สุดเวลาที่เราออกนอกประเทศ ดังนั้นเก็บไว้กับตัวและอย่าทำสูญหายจะดีที่สุด หลายๆครั้งที่มีการแนะนำให้เราถ่ายเอกสารเอกสารพวกนี้ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินและนำติดตัวไปด้วย เพราะบอกเลยว่าการทำหายที่ประเทศนี้อาจจะต้องรอติดตามประสานอีกหลายอาทิตย์ทีเดียว ดังนั้นก่อนไปก็เตรียมเอกสารทำหนังสือเดินทางและวีซ่าให้พร้อม ไปปถึงก็เก็บรักษาและพกติดตัวให้ดี
กระเป๋าเดินทาง
สำหรับผู้ที่เดินทางไปยังประเทศเอสโตรเนียนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในระดับไหนก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วทุกสายการบินจะกำหนดสิทธิ์ให้เราสามารถนำกระเป๋าใหญ่ส่งขึ้นไปในเครื่องบินได้ 1 ใบเท่านั้น และสหรับชั้นประหยัดจะสามารถโหลดกระเป๋าได้น้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลกรัม แต่ถ้าใครจะใช้วิธีเฉลี่ยกันในครอบครัวก็ได้
ยาประจำตัว
อันนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก การพกพายาประจำไปด้วยนั้นควรศึกษาให้ดีก่อนว่าประเทศเหล่านั้นมีการห้ามนำยาอะไรเข้าบ้าง และยาที่เรานำติดตัวไปจะต้องเพียงพอต่อความต้องการของเรา รวมถึงควรจะต้องมีเอกสารประกอบของยาที่ชัดเจนด้วย
เงินตรา
สกุลเงินที่ใช้ในประเทศเอสโตเนีย ก็คือ สกุลเงินยูโร แต่ยูโรนี้เป็นยูโรของท้องถื่นไม่ใช่ยูโรของยุโรปซึ่งบางร้านค้าในประเทศเอสโตรเนียจะไม่รับ ดังนั้นแนะนำให้แลกเป็นเงินยูโรในไทยไปก่อน จากนั้นค่อยนำเงินยูโรไปแลกเป้นสกุลเงินยูโรท้องถิ่นอีกที่หนึ่ง
ข้อห้ามที่ควรรู้เมื่อไปเที่ยวเอสโตเนีย
- แม้ว่าหลายประเทศในทวีปยุโรปเราจะสามารถดื่มน้ำประปาได้ แต่ในแถบประเทศนี้น้ำประปาสามารถดื่มได้เฉพาะที่ประเทศฟินแลนด์เท่านั้นส่วนประเทศเอสโตรเนียและกลุ่มบอลติกทั้งหมดแนะนำว่าให้ดื่มน้ำที่ขายชนิดขวดดีกว่า
- การถ่ายภาพในสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศเอสโตรเนียเกือบทุกแห่ง จะต้องเสียค่าธรรมเนียมทั้งกล้องถ่ายภาพและกล้องวีดีโอด้วย ซึ่งเรทที่ต้องจ่ายสามารถถามได้ที่บริเวณให้บริการนักท่องเที่ยว
- พิพิธภัณฑ์ทุกแห่งของประเทศเอสโตรเนียไม่อนุญาตให้ใช้แฟลต ดังนั้นใครที่หอบหิ้วกล้องไปก็ควรจะใช้งานกล้องให้คล่องก่อนจะได้ไม่ไปเผลอเปิดแฟลตให้โดนปรับเล่นๆ
- ห้องน้ำในที่สาธารณะของประเทศเอสโตรเนียบางแห่งอาจต้องเสียเงิน ดังนั้นดูให้ดีด้วยก่อนเข้าไปใช้งาน
- ทิป อย่าลืมให้ทิปเป็นอันขาดเวลาที่เราได้ใช้บริการอะไรไป
ในวันหยุดยาวสบายๆ อย่าลืมพากันไปเที่ยวเอสโตรเนียด้วยตัวเอง ประเทศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามกันนะ ซึ่งที่นี่ไม่ว่าจะไปในช่วงฤดูไหนก็มีบรรยากาศที่น่าเที่ยว และสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ ที่เข้ากับฤดูกาลเป็นอย่างมาก รับรองว่าไปแล้วคุณจะต้องติดใจจนไม่อยากกลับบ้านกันเลย