15 ที่เที่ยวอยุธยาสวยๆ ตลาด ทั้งวัดและไม่ใช่วัด

รวมสถานที่เที่ยวอยุธยาเมืองอันเป็นแหล่งอารยธรรมอันยิ่งใหญ่และสำคัญมากที่สุดของไทยแห่งนี้ มีเรื่องราวและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่พลาดไม่ได้สำหรับคนไทย ที่ควรจะหาเวลามาเยือนให้ได้อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิต อยุธยามีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอะไรบ้าง ติดตามไปด้วยกัน เที่ยวพระนครศรีอยุธยา เรียนรู้รากเหง้า ชื่นชมความรุ่งเรืองในอดีต

ตลาดน้ำอโยธยา

ในเนื้อที่กว่า 70 ไร่ของตลาดน้ำอโยธยาที่รวบรวมความเป็นไทยไว้ด้วยร้านค้ากว่า 250 ร้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยเก่าแก่โบราณ  ขนมโบราณที่หาชิมยาก ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในวันเสาร์อาทิตย์และช่วงเย็นวันธรรมดายังมีโชว์พิเศษที่มีเทคนิคเหมือนการถ่ายทำภาพยนตร์ เกี่ยวกับการสู้รบสมัยโบราณและจำลองเหตุการณ์การปกป้องบ้านเมืองของชาวกรุงศรีอยุธยา ในบรรยากาศย้อนยุคที่ใช้ชื่อของอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาเป็นชื่อสถานที่ภายในตลาด กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวตลาดน้ำอโยธยาก็คือ นั่งเรือชมบรรยากาศทั่วตลาด แวะชิมและนั่งดื่มด่ำบรรยากาศร้านอาหารริมน้ำและเรืออาหารที่ขายตามท่าน้ำต่าง ๆ  เที่ยวซื้อของและเก็บภาพสวยๆ ตามมุมต่างๆ ขี่ช้างชมวัดมเหยงคณ์ ซึ่งเป็นซากวัดโบราณสมัยก่อนกรุงแตก ชมการแสดงพื้นบ้านต่าง ๆ เช่น อีฉ่อย ลำตัด โขน เพลงละคร และมินิไลน์แอนด์ซาวน์ ซึ่งมีวันละไม่ต้ำกว่า 3 รอบ

อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา

เขตอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา (Ayutthaya Historical Park) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในอยุธยา ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เนื่องจากความสำคัญทางประวัติศาสตร์และความงดงามของรูปสถาปัตยกรรมที่นี่มีอยู่ พื้นที่อุทยานรวมถึงแหล่งต่าง ๆ ที่ควรรู้จักประกอบด้วย

1. พระเจดีย์หลวง (Great Pagoda): พระเจดีย์นี้เป็นสัญลักษณ์ของอยุธยา มีความสูงสุดและเป็นแหล่งชมวิวที่ยอดเยี่ยมของเขตอุทยาน
2. วัดแม่นาคโพธิ์ (Wat Maha That): วัดที่เป็นที่รู้จักมากในอยุธยา เป็นสถานที่ที่พบหัวพระพุทธรูปที่ตกอยู่ในรากต้นไม้
3. วัดราชพฤกษ์ (Wat Ratchaburana): วัดที่มีความประณีตที่สุดและน่าสนใจ ที่นี่คุณสามารถลงไปชมรูปแบบย่อยและพบข้อมูลประวัติศาสตร์โบราณ
4. พระเงินมหาปราสาท (Grand Palace): สำรวจพระบรมสารีริกธาตุที่ยืนยาวและยิ่งใหญ่ในเขตอุทยาน
5. วัดวังเดิม (Wat Phra Ram): น่ารักด้วยสวนสวยรอบๆ และสระใหญ่ ที่นี่คุณสามารถพักผ่อนและสัมผัสกับความสงบสุข
6. สะพานเสือ (Suspension Bridge): สะพานที่ยืนยาวความกว้าง และน่าสนใจในเขตอุทยาน
7. พระบรมร่วมวัด (Wat Phra Si Sanphet): วัดที่สำคัญในอดีต เป็นที่ตั้งของสามเจดีย์ที่อุดมสมบูรณ์
8. พระอารามหลวง (Royal Chapel): พระอารามนี้มีสถาปัตยกรรมสวยงามและบรรยากาศอันเป็นระเบียบ

อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยาเสนอประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าทึ่ง ที่นี่คุณสามารถเดินออกท่องเที่ยวในโลกโบราณและค้นพบประวัติศาสตร์ของประเทศไทยในยุคอยุธยาโบราณอย่างแบบเจาะลึงลงไปได้ที่นี่

วัดพนัญเชิงวรวิหาร

หากต้องการสัมผัสกับร่องรอยโบราณของสมัยก่อนอยุธยาต้องมายังวัดพนัญเชิงแห่งนี้ เพราะเป็นวัดที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ก่อนก่อที่อาณาจักรอยุธยาจะรุ่งเรือง พบกับความยิ่งใหญ่น่าเลื่อมใสศรัทธาของพระพุทธรูปองค์นั่ง องค์ใหญ่ที่สุดที่ยังเหลืออยู่ของอาจักรอยุธยา คือพระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต เป็นชื่อที่พระราชทานนามโดยรัชกาลที่ 4 เดิมชื่อว่า พระพุทธเจ้าพนัญเชิง  นอกจากนั้นยังมีหลวงพ่อประทานพรซึ่งได้ชื่อว่าหากใครมาสักการะขอพรจะได้สมปรารถนา  ความสวยงามของวัดพนัญเชิงที่เลื่องลืออีกสิ่งก็คือ กำแพงปูนที่ล้อมรอบวิหารประดิษฐานหลวงพ่อพนัญเชิงองค์โต เป็นกำแพงรั้วปูนปั้นสวยงามแสดงเรื่องราวรามเกียรติ เป็นประติมากรรมนูนต่ำ  ประตูไม้ทางเข้าวิหารเป็นไม้สักเก่าสลักลายวิจิตร ซึ่งเป็นฝีมือช่างโบราณ  รอบ ๆ บริเวณยังมีรูปปั้นเทพเจ้าจีนหลายองค์ ศาลเจ้ากวนอูและเซียนพิทักษ์โดยรอบ  ศาลปุงเถ่ากง และศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก  ผู้คนที่มาเยือนยังวัดพนัญเชิงจะนิยมทำบุญด้วยวิธีการเติมน้ำมันในตะเกียงและตักบาตรพระประจำวันเกิด

วังช้างแลเพนียด

วังช้างแลเพนียดเป็นสถานที่เที่ยวที่ถูกใจสำหรับคนที่รักช้างและเป็นสถานที่เที่ยวที่ถูกใจสำหรับครอบครัว เพราะที่วังช้างแลเพนียด นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสและใกล้ชิดกับช้างที่เชื่องและน่ารักทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ มีกิจกรรมถ่ายรูปกับช้างแสนรู้ นั่งเสลี่ยงขี่ช้างชมเมืองโบราณ ให้บรรยากาศเสมือนได้ย้อนไปในยุคสมัยอยุธยารุ่งเรือง ชมการแสดงแสนรู้ของช้าง  วังช้างแลเพนียดตั้งอยู่ตรงข้ามกับคุ้มขุนแผน

วัดมเหยงคณ์

เที่ยววัดมเหยงคณ์ ชมบรรยากาศความเก่าแก่และมีมนต์ขลังของสถานที่โบราณที่แม้จะผุพังเหลือเพียงซากอิฐปูน แต่ร่องรอยที่เหลือยังคงความวิจิตรอลังการให้เห็น วัดมเหยงคณ์แห่งนี้กลายเป็นวัดร้างเมื่อกรุงศรีอยุธยาราชธานีได้ถูกพม่าตีแตกและเผาเมือง  เชื่อกันว่าวัดแห่งนี้สร้างสมัยก่อนก่อตั้งกรุงศรีอยุธยากว่า 40 ปี   มเหยงคณ์นั้นรากศัพท์มาจากภาษาบาลี แปลว่าเนินดิน เนื่องจากสถานที่ตั้งวัดเป็นบริเวณเนินดินสูงขึ้นมา  ประกอบไปด้วยเจดีย์ทรงลังกา 2 องค์ วิหาร 2 หลัง พระอุโบสถขนาดใหญ่ที่มีทางลงลึกลงไปเป็นโถงอลังการ เจดีย์ช้างล้อม เจดีย์ลายทรงลังกา และเจดีย์ฝั่งตะวันตก  หากมาในช่วง3 โมงเย็นเป็นต้นไปจะได้แสงและมุมถ่ายรูปที่สวยมาก วัดมเหยงคณ์ตั้งอยู่เลยเกาะเมืองมาทางขวาประมาณ 1.5  กม.

วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร

วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหารแห่งนี้เป็นสถานที่อีกแห่งที่ห้ามพลาดเมื่อมายังจังหวัดอยุธยา เพราะเป็นวัดที่มีความแปลกไม่เหมือนใคร เป็นวัดของศาสนาพทธแต่สร้างด้วยศิลปะแบบโบสถ์คาทอลิก คือพระอุโบสถถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมในแบบโกธิค  ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับพระราชวังบางปะอินความสนุกและสีสันแรกของการมาเที่ยงยังวัดนิเวศธรรมประวัติแห่งนี้ก็คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามน้ำจากฝั่งพระราชวังมายังเขตประตูวัด  ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปก็แปลกไม่เหมือนใครเพราะไม่ได้สร้างแบบฐานชุกชีทั่วไปดังวัดพุทธศาสนาอื่น ๆ แต่สร้างเป็นฐานแบบตั้งไม้กางเขน  ตัวพระวิหารเป็นสีขาวสลับเหลืองเด่นและมีหลังคาจั่งแหลมสูงหลายชั้นศิลปะโกธิคภายในโถงวิหารเป็นเพดานหลังคาจั่วสูงสวยงาม มีบัวสลักลาย ประตูและหน้าต่างทรงโค้งแลมและประดับด้วยสเตนกลาสหรือกระจกสีสวยอย่างโบสถ์ฝรั่ง ตามผนังภายในฉลุลายลงสีชมพูสลับขาวสวยโปร่งตา  แม้แต่ตามโค้งของเสาก็ประดับด้วยรูปปั้นเทพพนม  เรียกได้ว่าเพียงเข้ามาชื่นชมสถาปัตยกรรมก็คุ้มค่าเพราะเป็นเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย

พิพิธภัณฑ์ของเล่น เกริกยุ้นพันธ์

มาเที่ยวยังพิพิธภัณฑ์ของเล่น เกริกยุ้นพันธ์แห่งนี้ เปรียบเสมือนได้มาเยี่ยมเยือนวัยเยาว์ของตัวเอง เพราะที่นี่เกิดจากแรงบันดาลใจของนักเขียนวรรณกรรมเยาวชนและนักวาดภาพประกอบนิทาน คือรศ.เกริก ยุ้นพันธ์ ภายในแบ่งบริเวณออกเป็น 2 โซน ได้แก่นอกตัวอาคารจะเป็นสวนที่มีม้าโยกและเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย โซนตัวอาคารสร้างแบบตึกปูนฝรั่งหน้าต่างไม้เกร็ดลูกฟัก ตัวอาคารสีขาวและหน้าต่างสีฟ้าเป็นเรือนยาวสองชั้น ชั้นล่างเป็นของสะสมโบราณ รวมถึงของเล่นและของโปรดของเด็ก ๆ ในสมัยก่อนย้อนยุค  ชั้นสิองเป็นโมเดลตัวการ์ตูนที่เด็กๆ ชื่นชอบขนาดใหญ่และเล็กมากมาย รวมถึงหนังสือนาน้วย พิพิธภัณธ์ของเล่นแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าวาสุกรี เขตอำเภอเมือง

ตลาดโก้งโค้ง

หากจะมายังตลาดโก้งโค้งต้องมาวันพฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หรือวันนักขัตฤกษ์ เพราะตลาดเปิดเพียงแค่ 4 วันต่อสัปดาห์ หากมาในตอนเช้าช่วง 10.00น จะได้พบกับรำวงกองงยาวแบบภาคกลางที่รำถวายหลวงปู่แสงโสมในทุก ๆ วัน และยังมีการทำบุญตักบาตรเหรียญในทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน  ที่ตลาดโก้งโค้งนี้มีสินค้าและอาหารไทยโบราณพื้นเมืองหายากให้ได้เลือกซื้อเลือกชิม บรรยากาศตลาดแต่เดิมแม่ค้าจะขายของแบกะกิน ทำให้ต้องโก้งโค้งตัวก้มดูสินค้า จึงเป็นที่มาของชื่อตลาดนั่นเอง  ตั้งอยู่ที่ตำบลขนอนหวง อำเภอบางปะอิน

พุทธอุทยานมหาราช

พุทธอุทยานมหาราชเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของพุทธศาสนิกชนและคนทั่วไปที่เพิ่งก่อสร้างขึ้นไม่นาน ประดิษฐานรูปปั้นเหมือนจริงหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่สีทอง ในสถานที่บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยสระน้ำขุดขนาดใหญ่ และสะพานปูนทอดยาว อยู่ในพื้นที่ระหว่างอำเภอมหาราชและอำเภอบางปะหันและอาณาเขตยังต่อไปยังจังหวัดอ่างทองด้วย เป็นโครงการสร้างวัดแห่งใหม่เพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวงและพระราชินีด้วย ชื่อว่าวัดวชิรธรรมาราม และยังเชื่อว่ารงส่วนต่อบริเวณจังหวัดทั้งสองคืออยุธยาและอ่างทองเนเส้นทางเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  จึงได้วางโครงการสร้างพุทธอุทยานมหาราชขึ้นอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสามพระยา

มาที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสามพระยาที่เดียวก็เหมือนได้เรียนรู้ความเป็นมาและรายละเอียดโดยรวมทั้งหมดของอาณาจักรอยุธยาอันรุ่งเรืองในอดีตทีเดียว เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดของอยุธยา รวบรวมข้อมูลเรื่องราว วัตถโบราณและหลักฐานโดยละเอียดมากมายของอาณาจักรอยุธยาและจังหวัดอยุธยาเข้าไว้ในที่เดียว ประกอบไปด้วยส่วนจัดแสดงคือ หมู่เรือนไทย ซึ่งเป็นอาคารสร้างอยู่คร่อมน้ำ จัดแสดงเรื่องราวความเป็นอยู๋ของคนไทยโบราณ ทั้งเครื่องเรือนและวิถีชีวิตต่างๆ อาคารศิลปะในประเทศไทย รวบรวมศิลปะไทยทั้งในรูปแบบศิลปะวัตถุ ภาพเขียนและอื่น ๆ ในยุคสมัยต่าง ๆ ที่ได้ค้นพบ ตั้งแต่สมัย ทวาราวดี ศรีวิชัย  ลพบุรี สุโขทัย เชียงแสน  และรัตนโกสินทร์ อาคารตึกเจ้าสามพระยา  ชั้นล่างจัดแสดงโบราณวัตถุสำคัญทั้งหมดที่ขุดค้นพบของอยุธยา  ชั้นบนเป็นข้างของเครื่องใช้วัตถุโบราณทั้งของอยุธยาและต่างประเทศที่ร่วมสมัยในยุคอาณาจักรเหล่านั้น ห้องมหาธาตุ จัดแสดงพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องทองต่าง ๆ อันสำคัญของอาณาจักรอยุธยา ห้องราชบูรณะ  จัดแสดงศิลปะวัตถุอันล้ำค่ามีเคื่องทองพลอยและอื่น ๆ ที่ขุดพบในวัดราชบูรณะ พิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสามพระยา ตั้งอยู่ที่เขตพระนคร  อยุธยา

วัดพระราม บึงพระราม

วัดพระรามเป็นโบราณสถานเก่าแก่อีกแห่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองเก่าอยุธยาแห่งนี้ เพราะเป็นเสมือนสัญลักษณ์อีกแห่งของดินแดนอยุธยา   สร้างขึ้นในสมัยพระราเมศวร พ.ศ. 1912 เป็นบริเวณที่เคยถวายพระเพลิงศพพระเจ้าอู่ทอง  ตั้งอยู่หน้าบึงน้ำขนาดใหญ่ชื่อบึงพระราม ประกอบไปด้วยพระปรางค์องค์ใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์รูปแบบการสร้างในสมัยนั้น และวิหารใหญ่น้อยอีก 7 หลัง  ไฮไลท์ของกิจกรรมเมื่อมาเที่ยววัดพระรามคือ ในช่วงเวลา 19.30 น จะมีกิจกรรมการส่องไฟชมโบราณสถาน  วัดพระรามตั้งอยู่ตรงข้ามวิหารพระมงคลบพิตร

ปราสาทนครหลวง

ปราสาทนครหลวง สถาปัตยกรรมโบราณที่คงเค้าความสวยงามวิจิตรและยิ่งใหญ่ในอดีตตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรมและพระเจ้าปราสาททอง เป็นทรงถ่ายแบบมาจากปราสาทศิลาของขอมที่กัมพูชา เพื่อเฉลิมฉลองที่ได้กัมพูชามาครองอีกครั้ง ช่วงปี พ.ศ. 2147  ลักษณะเป็นการก่ออิฐมอญทรงเรือนยาวโดดเด่นตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก

คุ้มขุนแผน

ดื่มด่ำและสัมผัสความเป็นไทยแท้อย่างใกล้ชิดกับหมู่เรือนไทยของขุนนางไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่คุ้มขุนแผนกับหมู่เรืองไทยแท้ไม้สักทองใต้ถุนยกสูง เดิมเป็นเรือนของขุนนางจวนของสมุหเทศาภิบาล มณฑลกรุงเก่า ได้ถูกยกมาจากบริเวณที่ว่าการมณฑลเก่า มายังบริเวณที่เชื่อว่าเคยเป็นที่คุมขังขุนแผน ณ บริเวณคุกนครบาลเก่า ตั้งอยู่ไม่ไกลจากศาลาว่าการจังหวัดหลังเดิม

ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร

ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร สถานที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นแหล่งช็อปปิ้งงานฝีมือมากมาย เพราะที่นี่เป็นศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพในพระราชดำริของสมเด็จพระราชินี ภายในแบ่งเป็นโซนดังนี้ก็คือ

นอกจากนั้นยังได้ชมการสาธิตขั้นตอนต่าง ๆ ในการผลิตงานศิลปหัตถกรรมแต่ละชิ้นและซื้อของใช้ของฝากติดมือกลับบ้านอีกด้วย

พระราชวังบางปะอิน

พระราชวังบางปะอินแห่งนี้ไม่ว่าชาวไทยหรือนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างก็ต้องแวะมาชม ความสวยงามวิจิตรแห่งสถานที่และบริเวณโดยรอบ ความสวยงามของพระราชวังแห่งนี้อยู่ที่การออกแบบที่ร่วมสมัยกับยุคเรเนซองค์ ซึ่งตรงกับยุคสมัยรัชกลที่ 5 เนื่องมาถึงรัชกาลที่ 6 เมื่อได้มาเยือนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของยุคสมัยที่ละเอียดละเมียดละไมและวิจิตรของคนในช่วงยุคกว่า 100 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพระที่นั่งอุทยานภูมิสถียร ที่ภายในมีเครื่องเรือนไม้มะฮอกกานีสลับทองอันหายากจากยุโรป หอวิฑูรทัศนา เป็นหอสูง 3 ชั้นบันไดวนเพื่อส่องดูวิวโดยรอบ  พระที่นั่งเวหาจำรูญ เป็นเก๋งจีนกลางน้ำมีชื่อจีนว่า  เทียน เม่ง เต้ย เก๋งแห่งนี้กลุ่มพ่อค้าชาวจีนเป็นผู้สร้างถวายแด่รัชกาลที่ 5  พระที่นั่งวิโรภาษพิมาน  เป็นท้องพระโรงที่สร้างแบบกรีกตามแบบคอรินเทียนออเดอร์ เพื่อรัชกาลที่ 5ทรงใช้เสด็จออกรับแขกต่างเมือง   หอมณเฑียรเทวราช เป็นพระปรางค์ที่รัชการที่ 5 ทรงสร้างแทนพระปรางค์องค์เดิมสมัยพระเจ้าปราสาททอง  อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ ตึกสภาคารราชประยูร และเก๋งบุปผาประภาส

สรุปได้ว่าจังหวัดอยุธยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักเดินทางที่สนใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันร่ำรวยของประเทศไทยต้องไปเยือน ด้วยวัดวาอารามอันเก่าแก่ พระราชวัง ตลาดดั้งเดิม และอาหารเลิศรส อยุธยามอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและน่าจดจำซึ่งจะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม

เที่ยวอยุธยาเมืองเก่าแก่และสำคัญของไทยอย่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยือนและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง ใกล้กรุงเทพเพียง 1 ชั่วโมง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดที่น่าสนใจมากอีกจังหวัดหนึ่งทีเดียว ที่เที่ยวอยุธยาอัพเดทใหม่ๆติดตามได้ที่นี่