16 ที่เที่ยวสุพรรณบุรีสวยๆในเมือง ตลาด ธรรมชาติ
รวม 16 ที่เที่ยวสุพรรณบุรีที่ต้องไม่พลาดไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม เยือนแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดมุ่งหมายสำหรับในการมาเยือน ก่อนอื่นนั้นจะต้องกล่าวนำก่อนว่าจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นจังหวัดภาคกลางที่ปรากฎสถานที่มากมายในวรรณคดีขุนช้างขุนแผน และมีแหล่งท่องเที่ยวรวมถึงสถานที่สำคัญมากมายที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้มาเยือน สุพรรณบุรีจะน่าสนใจอย่างไรบ้าง ลองไปเยือนด้วยกัน เที่ยวสุพรรณบุรี เมืองรุ่งเรืองประวัติศาสตร์ภาคกลางและธรรมชาติอันน่าสัมผัส
เนื้อหาในหน้าเพจนี้
- 1 ตลาดร้อยปีสามชุก
- 2 อุทยานแห่งชาติพุเตย
- 3 วัดไผ่โรงวัว
- 4 หอคอยบรรหาร
- 5 อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง
- 6 ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณ
- 7 อุทยานมังกรสวรรค์
- 8 วัดป่าเลไลย์
- 9 หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย
- 10 ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง
- 11 วัดพระนอน
- 12 ตลาดเก้าห้อง
- 13 พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
- 14 บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ
- 15 เขื่อนกระเสียว
- 16 พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี
ตลาดร้อยปีสามชุก
ด้วยประวัติอันยาวนานกว่า 100 ปี ของตลาดริมน้ำท่าจีนอย่างตลาดร้อยปีสามชุก ในอดีตอันรุ่งเรืองเป็นที่สัญจรติดต่อค้าขายของคนมากมาย ถึงวันนี้ก็ยังคงความเก่าแก่สวยงามที่มองเห็นได้ถึงร่องรอยรุ่งเรืองแห่งอดีตและความคลาสสิคเรียบง่ายของยุคสมัย เรือนไม้เก่าแก่และบรรยากาศชุมชนดั้งเดิมเมื่อได้มาสัมผัสก็จะรู้สึกราวกับได้ย้อนยุคไปในอดีต เดินซื้อเดินชมอาหารข้าวของไทย ๆ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยังมีชีวิต ภายในมีตรอกซอย 4 ซอยที่มีร้านค้ากระจายอยู่ ซอย 2 จะมีร้านรวงและสถถานที่น่าสนใจคึกคักกว่าซอยอื่น ๆ
พิพิธภัณฑ์ของนายภาษีอากรคนแรกแห่งสามชุก ขุนจำนวค์ จีนารักษ์ ภายในบ้านไม้เก่าสามชั้น มีรูปภาพและข้าวของเครื่องใช้จัดวางความเป็นอยู่และบรรยากาศสมัยเก่าที่น่าไปเยี่ยมชม สำหรับผู้ชื่นชอบเครื่องดื่มคลาสสิคอย่างโค้ก ต้องไม่พลาดมาเยือน ร้านบ้านโค้ก ที่นี่รวบรวมของทุกอย่างที่เกี่ยวกับโค้กไว้
- แวะเยือนวัยเยาว์และซื้อหาของเล่นติดไม้ติดมือที่ร้านของเล่นโบราณชื่อว่า ร้านมหาสนุกรวบรวมของเล่นในยุคโบราณไว้
- ร้านถ่ายรูปเก่าแก่ของสามชุกชื่อว่า ร้านศิลป์ธรรมชาติ อยู่ในซอย 3 เป็นร้านที่เปิดมาคู่สามชุกกว่าครึ่งศตวรรษ
- อาหารแนะนำที่ต้องไม่พลาดมาชิมเมื่อมาเที่ยวตลาดสามชุกก็คือ หลน ข้าวห่อใบบัว ห่อหมกยกหม้อ ปลาแดดเดียว ขนมสาลี่เมืองสุพรรณ เป็ดย่างจ่าเฉิดและเมี่ยงปลาทู
อุทยานแห่งชาติพุเตย
ที่อุทยานแห่งชาติพุเตยแห่งนี้มีอีกชื่อหนึงว่า วนอุทยานแห่งชาติพุกระทิง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าองค์พระ ป่าห้วยพลู ป่าเขาพุระกำ ในอำเภอด่านช้าง เป็นอุทยานแห่งชาติหนึ่งเดียวของจังหวัดสุพรรณบุรี และเป็นแหล่งแห่งป่าสนสองใบแห่งเดียวของภาคกลาง เป็นป่าสมบูรณ์สลับทิวเขา ส่วนที่สูงที่สุดเรียกกันว่า ยอดเขาเทวดา ซึ่งมีทัศนียภาพสวยงามมากเพราะเต็มไปด้วยป่าสนสองใบที่สมบูรณ์ตามธรรมชาติ มียอดเขาสลับซับซ้อนสูงชัน ทั้งเขาขโมย ปละกหมู พุระกำ เขาม่วงเฒ่า เขาพุเตย เขาปะโลง เขาห้วยพลู เขาผาแดง เป็นแหล่งกำเนิดของน้ำหลายสาย มีฝนตกตลอดปี ภายในบริเวณอุทยานมีการส่งเสริมการทำกิจกรรมออกค่าย ของนักเรียนนักศึกษา การฝึกในรูปแบบคล้ายทหารเป็นฐานพลังใจให้ผจญภัย ศึกษาธรรมชาติจากห้องเรียนธรรมชาติ ความสวยงามและน่าสนใจที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนอยู่ที่ ป่าสนสองใบ ป่าเบญจพรรณ และป่าดิบชื้น ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ป่าและพืชพรรณไม้ กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้โดยเฉพาะสำหรับใครที่ชอบกีฬาแนวผจญภัยก็คือ โรยตัวไปตามผาน้ำตกตะเพิ่นคี่น้อย หากต้องการพักแรมในอุทยาน มีลานกางเต้นท์ของอุทยานให้บริการ 3 จุด พร้อมสถานที่ทำอาหารและห้องน้ำ หรือจะจองพักในบ้านพักของทางอุทยานก็ได้
วัดไผ่โรงวัว
หากใครที่เป็นพุทธศาสนิกชนและต้องการสัมผัสคำสอนของพุทธศาสนาเรื่อง สวรรคภูมิ และนรกภูมิ ต้องมาเที่ยวชมงานประติมากรรมเกี่ยวกับนรกภูมิและสวรรคภูมิที่นี่ วัดไผ่โรงวัวเป็นวัดเก่าแก่และมีชื่อเสียงมากของจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องแวะเมื่อได้มายังสุพรรณบุรี นอกจากส่วนแสดงประติมากรรมที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีพระพุทธรูปปูนปั้นองค์ใหญ่ที่สุดในโลกนาม พระกะกุสันโท เบื้องหน้าองค์พระมีฆ้องและบาตรใหญ่ที่สุดอยู่ด้วย สัมผัสกับสิ่งสร้างจากทองสัมฤทธิ์ใหญ่ที่สุดในโลกอีกสองอย่างคือ พระธรรมจักรและ พระวิหารร้อยยอด สักการะพระพุทธโคดม อีกหนึ่งพระพุทธรูปสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในบริเวณวัดยังมีส่วนจัดแสดงสังเวชนียสถาน 4 คือสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรง ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และสถานที่ปรินิพพาน ให้ได้ชมด้วย วัดไผ่โรงวัวเปิดให้ได้เข้าชมและสักการะเวลา 8 โมงเช้าและปิด5 โมงเย็น
หอคอยบรรหาร
เมื่อมาถึงตัวเมืองสุพรรณบุรี หอคอยบรรหารเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าไปเที่ยวชม เพราะเป็นหอคอยชมวิวที่สูงที่สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ในสวนที่มีเนื้อที่ 17 ไร่ชื่อว่า สวนเฉลิมภัทรราชินี โดยรอบเต็มไปด้วยสวนสวยของพืชนานาพรรณทั้งไม้ดอกไม้ใบ และเบื้องหน้าหอคอยยังมีน้ำพุเต้นระบำตามเสียงเพลงด้วย
ตัวหอคอยมีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นแรกแสดงภาพจิตรกรรมเรื่องราวของเสภาขุนช้างขุนแผน และจำหน่ายของที่ระลึก ชั้นที่ 2 เป็นห้องพักผ่อนรับประทานอาหารจำพวกของว่างขนมและไอศกรีมพร้อมกับชมทัศนียภาพเบื้องล่างที่เป็นสวน ชั้นที่ 3 เป็นจุดชมวิวของเมืองสุพรรณและมีของที่ระลึกขายอีกจุดหนึ่ง ชั้นบนสุดเป็นกล้องส่องทางไกลให้ได้ชมวิวทั่วทั้งจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดใกล้เคียง โดยส่องผ่านกล้องที่มีให้บริการโดยรอบ ชั้นที่ 4 นี้ ตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมเรื่องราวของพระนเรศวรและภาพของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่โดดเด่นของจังหวัดสุพรรณบุรี ค่าเข้าชมสถานที่ของหอคอยบรรหารราคา 40 บาทเท่ากันหมดทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง
ใกล้เพียงแค่จังหวัดสุพรรณบุรี ก็สามารถสัมผัสกับบรรยากาศสวยงามไม่ต่างจากปางอุ๋งที่อยู่ไกลถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ เพราะที่อ่างเก็บน้ำหุบเขาวงนี้ได้รับการกล่าวขานว่าสวยไม่แพ้ปางอุ๋งแม่ฮ่องสอน จนใคร ๆ ที่ได้มาสัมผัสต่างก็เรียกที่นี่ว่าปางอุ๋งสุพรรณ ทิวทัศน์ที่สวยงามของอ่างเก็บน้ำที่เป็นเหมือนเวิ้งอ่าวล้อมรอบด้วยภูเขาสีเขียว ผืนน้ำใสเหมือนกระจก สะท้อนเงาทิวเขาคล้ายภาพวาด เป็นแหล่งตกปลาที่มีปลาหลากหลายให้เย่อกันอย่างสนุกตื่นเต้น และที่พักที่มีให้บริการทั้งแพขนาดเล็กและใหญ่ริมน้ำ หรือจะเลือกกางเต้นท์ในจุดลานกางเต้นท์ก็ได้ ปางอุ๋งสุพรรณ หรืออ่างเก็บน้ำหุบเขาวง ตั้งอยู่ในส่วนพื้นที่อำเภอด่านช้าง
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณ
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองของจังหวัดสุพรรณบุรีนี้ มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปีในสมัยรัชกาลที่ 5 เดิมเป็นศาลที่ก่อสร้างแบบเรือนไทย ในภายหลังนี้เองได้รับการบูรณะโดยสร้างแบบสถาปัตยกรรมจีนครอบศาลองค์เดิมไว้ ภายในศาลนั้นนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สักการะ แผ่นหินเขียวสลักองค์พระนารายณ์และพระอิศวรซึ่งเก่าแก่มาแต่สมัยโบราณ ใกล้กันจะมองเห็นรูปปั้นมังกรใหญ่ตระหง่านอยู่ด้วยสีสันและลวดลายที่วิจิตร ซึ่งก็คืออุทยานมังกรสวรรค์
อุทยานมังกรสวรรค์
อุทยานแห่งนี้ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีนประกอบด้วยหมู่เรือนเก๋งจีนและศาลาทรงหลังคาจีนมากมาย เพียงก้าวเข้าไปก็รู้สึกได้เหมือนเข้าไปสู่ยุคและอาณาจักรของจีนโบราณ มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ให้ได้เก็บภาพหลายมุม ร้านค้าจนกระทั่งร้านสะดวกซื้อก็มีให้บริการ เดินชมทั่วบริเวณทั้งสะพานแบบจีนเสามังกร และไฮไลท์สำคัญคือพิพิธภัณฑ์ลูกหลานมังกร ซึ่งรวบรวมประวัติและรายละเอียดชนชาติจีนเอาไว้ ใกล้กันยังมีศาลาเจ็ดชั้นตั้งอยู่กลางน้ำ เมื่อเข้าชมภายในจะพบกับเซียนต่างๆในต่ละชั้น ทั้งเซียนจากวรรณกรรมไซอิ๋วและเทพฮกลกซิ่ว ชั้นบนมองลงมาเห็นทิวทัศน์โดยรอบของบริเวณศาลหลักเมือง ที่สวยงามและน่าประทับใจ
วัดป่าเลไลย์
วัดป่าเลไลย์เป็นวัดเก่าแก่และมีชื่อเสียงแห่งจังหวัดสุพรรณบุรีแห่งนี้ มีตำนานที่น่าสนใจมากมาย เริ่มจากทางเข้าวัดที่มีเครื่องหมายพระมงกุฏปรากฎอยู่ระหว่างฉัตรคู่ เกิดจากที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงมาพบเข้ากับวัดแห่งนี้ในช่วงที่ทรงออกธุดงขณะทรงผนวช และหลังจากครองราชจึงทรงมาบูรณะ อีกทั้งวัดป่าเลไลย์ยังเป็นวัดที่รู้จักกันในเสภาขุนช้างขุนแผน เพราะเป็นวัดที่พลายแก้วหรือขุนแผนได้มาบวชอยู่ ในวัดจึงมีรูปปั้นของขุนแผนและนางพิมพิลาไลย อยู่ภายในบริเวณด้วย เมื่อนักท่องเที่ยวได้มาเยือนวัดป่าเลไลย์จะได้มีโอกาสสักการะหลวงพ่อโตซึ่งเป็นองค์พระปิดทองขนาดใหญ่ในปางเลไลย์ ซึ่งเป็นศิลปะอู่ทองสุพรรณ ด้วยฝีมือช่างอู่ทองแท้ เชื่อกันวาเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่เมืองสุพรรณมาก่อนปี พ.ศ. 1724 หากต้องการมาร่วมงานนมัสการหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลย์ แนะนำให้มาในช่วงขึ้น 5 ค่ำของเดดือน 5 และเดือน 12 ซึ่งจะมีงานนมัสการหลวงพ่อโตสองครั้งในหนึ่งรอบปี วัดป่าเลไลย์ตั้งอยู่ที่ถนนมาลัยแมน เขตอำเภอเมือง
หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย
ในพื้นที่กว่า 100 ไร่ของหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้และสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวไทยดั้งเดิมที่เป็นสังคมเกษตรกรรมและมีความเป็นอยู่โดยยึดอาชีพชาวนา ภายในหมู่บ้านชาวนาแห่งนี้แบ่งส่วนต่าง ๆ เป็น หมู่บ้านชาวนาจำลองรูปแบบชาวนาไทยดั้งเดิม ความเป็นอยู่ บ้านเรือนที่เป็นเรือนไทยภาคกลางแท้ ภายในเรือนจำลองวิถีความเป็นอยู่เครื่องเรือน ข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อน มีคอกควาย ลอมฟาง ลานนวดข้าว เที่ยวชมเรือนไทยภาคกลางที่จัดส่วนสมุนไพรไทย นวดไทย และแพทย์แผนไทย โหราศาสตร์ไทย ให้ได้เรียนรู้ด้วย ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือ การนั่งเกวียนโบราณในบรรยากาศไทย ๆ แบบทุ่งนาไทย และการแสดงของควายในวันธรรมดาจัดแสดง 2 รอบและในวันหยุดเสาร์อาทิตย์จัดแสดง 3 รอบ เดินชมควายในหมู่บ้านควายที่มีควายมากมายหลายแบบ ตั้งแต่ควายลักษณะต่าง ๆ กันไปจนถึงควายดาราที่มีผลงานการแสดงละครและภาพยนตร์หลายตัว ในหมู่บ้านควายยังมีพิพิธภัณฑ์ชาวนาจัดแสดงอยู่ด้วย ก่อนกลับยังมีจุดแวะซื้อของที่ระลึกเกี่ยวกับบ้านควายบริการด้วย หากต้องการพักแรมในหมู่บ้านควายก็มีเรือนโหราจารย์ บ้านไทยรีสอร์ท และเรือนบาหลี ให้บริการเช่าพักในราคาที่แตกต่างกันไป สถานที่ตั้งหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย อยู่ที่ ตำบลวังซับน้ำ อำเภอศรีประจันต์
ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง
ดอกไม้หลากพันธุ์สวยงามละลานตารอให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสที่ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงแห่งนี้ จากความสำเร็จของเทคโนโลยีการเพาะพันธุ์ไม้ โดยเฉพาะไม้ดอก ที่นี่จึงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไม้ประดับแหล่งใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทย มีแม้แต่ดอกไม้เมืองหนาวอย่างทิวลิป ซึ่งมักมีการจัดงานแสดงดอกทิวลิปในช่วงต้นปีให้ได้มาเที่ยวชมด้วย ภายในบริเวณอันกว้างใหญ่แบ่งเป็นโซน ทั้งโซนภายในเพาะพันธุ์ที่ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวชม และโซนจัดแสดงพันธุ์ไม้ที่มีให้ชมกว้างขวาง โซนที่น่าสนใจมีดังนี้ เรือนพรรณไม้งาม โรงเรือนสิบไร่ ที่ให้ได้ชื่นชมและถ่ายรูปกับไม้ดอกสวยงามมากมาย อีกทั้งยังซื้อต้นที่ถูกใจกลับบ้านในสนนราคาถูกมากเริ่มตั้งแต่ต้นละ 1 บาทไปจนถึงต้นละหลักหมื่นทีเดียว แวะทานอาหารที่ ครัวพรรณไม้งาม ที่นี่มีการจัดแสดงดอกไม้ในช่วงต่าง ๆ ของปีเสมอ ได้แก่ งานแสดงทิวลิปงามในช่วงปีใหม่ จัดแสดงกุหลาบสายพันธุ์ต่างๆ ช่วงวาเลนไทน์ ดอกกระเจียวช่วงวันแม่ และดอกทานตะวันในช่วงวันพ่อ ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงแห่งนี้ ตั้งอยู่ในตำบลพลับพลาชัย ตัวอำเภออู่ทอง
วัดพระนอน
เยือนวัดเก่าแก่กันอีกวัดหนึ่งของเมืองสุพรรณ นั่นก็คือวัดพระนอนเป็นวัดที่สร้างในสมัยอู่ทอง ได้ชื่อว่าวัดพระนอนก็เพราะมีพระพุทธรูปองค์นอนเก่าแก่ประดิษฐานอยู่ พระนอนองค์นี้มีความพิเศษไม่เหมือนพระนอนที่อื่น คือมีลักษณะนอนหงายขนาดเท่าองค์จริง คล้ายพระนอนแห่งเมืองกุสินาราของประเทศอินเดีย พระนอนนี้ถูกขุดพบที่บริเวณที่ตั้งวัดแห่งนี้นี่เอง และในบริเวณยังขุดพบเครื่องปั้นดินเผาสมัยอยุธยา เครื่องถ้วยชามของราชวงศ์เม็งของจีน และเครื่องสังขโลก
ตลาดเก้าห้อง
ณ ริมแม่น้ำสุพรรณบุรี มีตลาดเก้าห้อง สถานที่ท่องเที่ยวย้อนยุคที่ไม่ว่าใครหากได้มาเยือนจะสัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งอดีตที่น่าประทับใจ แม้ว่าจะเป็นตลาดเก่าแต่ก็แตกต่างจากตลาดเก่าที่อื่น ๆ ตลาดเก้าห้องเกิดขึ้นเมื่อเกือบหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เมื่อมาถึงสถานที่จะพบกับสถาปัตยกรรมก่ออิฐถือปูนเกือบ 100 ปี ทั้งหอดูโจรที่หาดูได้ยาก โรงสีเก่า บ้านเก้าห้อง และพิพิธภัณฑ์เก้าห้อง จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของอดีต ในวันอาทิตย์จะเป็นวันที่เหมาะจะมาเดินเที่ยวชมและซื้อของ เพราะมีชาวบ้านนำอาหารขนมและของพื้นเมืองมาขายอย่างคึกคัก เช่น ขนมจันอับ ขนมเป๊ะ ขนมถ้วยฟู ห่านพะโล้ กาแฟโบราณ ขนมโก๋โบราณ ไส้ออั่ ว ขนมไข่ปลา มะกรูดแช่อิ่ม ขนมปะแนม สถานที่น่าสนใจในบริเวณตลาดเก้าห้องนอกจากที่กล่าวมาแล้วก็มี ตัวตลาดเก้าห้องที่มีบรรยากาศเป็นชุมชนตลาดจีนโบราณนั้นเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และละครหลายเรื่อง เช่น อยู่กับก๋ง อั้งยี่ เจ็ดประจัญบาน และแม่เบี้ย ศาลเจ้าพ่อทุ่งแค ฮู้ใหญ่โบราณและอาคารสองชั้น ที่เป็นสถาปัตยกรรมไทยผสมจีน หอดูโจรเป็นหอปูนสูงที่ขึ้นไปชมด้านบนได้ มีรูให้สอดกระบอกปืนเพื่อเฝ้าระวังโจร จากหอโจรมองมาจะเห็นแม่น้ำสุพรรณหรือแม่น้ำท่าจีนและวัดลานคา
พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
ภายในบริเวณพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ เป็นอีกสถานที่ที่น่าสนใจ เพราะมีส่วนของการจัดแสดงหุ่นจำลองพร้อมฉากที่สวยงามของสงครามยุทธหัตถีของพระนเรศวรมหาราชกับสมเด็จพระอุปราช กองทัพพม่า มีแสงสีเสียงที่น่าตื่นตาและได้รับความรู้ เดิมทีเจดีย์แห่งนี้เป็นการทรงสร้างของสมเด็จพระนเรศวรเพือระลึกถึงชัยชนะที่มีต่อพม่า ในปี พ.ศ.2134 ภายหลังได้รับการบูรณะโดยกองทัพบกสร้างเจดีย์ทรงลังกาครอบองค์เดิมไว้ ตั้งอยู่ใจกลางอำเภอเมือง
บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ
ชื่นชมและสัมผัสกับธรรมชาติสดชื่นของบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ บึงธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ บึงบัวและเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์น้ำนานาพันธุ์ ในเนื้อที่กว่า 2700 ไร่ เหมาะสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวมีสมาชิกที่เป็นเด็กเพราะที่นี่ มีทั้งส่วนของสวนสัตว์ที่มีสัตว์ป่านานาชนิด และส่วนของนกซึ่งอยู่ในกรงขนาดใหญ่ที่จัดสภาพแวดล้อมเหมือนธรรมชาติ มีโซนถ่ายรูปร่วมกับสัตว์ เช่นขี่ม้าถ่ายรูป ถ่ายรูปคู่กับลิงอุรังอุตัง เกาะกระต่าย ศูนย์รวมพันธุ์ไก่ ที่มีไก่พันธุ์หายากเช่น ไก่ฟ้าสีทอง ไก่พญาลอ ไก่ฟ้าหลังขาว อุทยานผักพื้นบ้านเฉลิมพระเกียรติที่รวมผักพื้นบ้านทั่วไทยกว่า 500 ชนิด ไฮไลท์อยู่ที่อุโมงค์กระจกขนาดยักษ์ที่แสดงปลานานาพันธุ์ อีกทั้งยังมีบ่อปลาขนาดใหญ่กลางแจ้ง บ่อจรเข้ และตู้ปลาหลายหลากแบบด้วย ในส่วนของบึงฉวากที่เป็นบึงธรรมชาติมีรีสอร์ทให้ได้เข้าพักด้วย บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติอยู่บนถนนกรุงเทพสุพรรณบุรี ทางไปจังหวัดชัยนาท
เขื่อนกระเสียว
เขื่อนกระเสียว เขื่อนดินกว้างที่สวยงามแห่งนี้หากมองจากจุดด้านบนเขื่อนจะเห็นวิวของเขาพุเตย มีแหล่งพันธุ์ปลามากมาย เป็นที่นิยมของคนในท้องที่มาเดินเล่นออกกำลัง ปั่นจักรยาน ในช่วงเช้าจะมองเห็นยอของชาวบ้านที่ตั้งวางในเรือ เป็นยอดักปลาที่แปลกตากว่ายอที่อื่น ๆ แนวสันเขื่อนเป็นทางที่เหมาะกับกิจกรรมปั่นจักรยาน เป็นที่ชื่นชอบของนักปั่น เริ่มเส้นทางจากสันเขื่อนผ่านมายังหาดทรายท้ายเขื่อนและวัดทับกระดาษ เป็นเส้นทางลูกรังที่ได้ผจญภัยเล็กๆ กับจักรยานเสือหมอบ ในส่วนของหาดท้ายเขื่อนกระเสียว ก็เป็นที่ให้ได้ลงเล่นน้ำกัน มีชูชีพและห่วงยางให้เช่า ร้านค้าและร้านขายอาหารก็มีให้บริการทั่วบริเวณหาด ในช่วงเย็นภาพที่สวยงามของชาวประมงยกยอที่ประดิษฐ์ผสมผสานกับยอขนาดใหญ่ภาคใต้เป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจ หนึ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ทุ่งหญ้าท้ายเขื่อน และแนวขอบสันเขาพุเตยที่อยู่ปลายสายตา เขื่อนกระเสียวอยู่ในบริเวณตำบลด่านช้าง
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี
หากต้องการเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของจังหวัดสุพรรณบุรี ต้องไม่พลาดมาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี ที่นี่รวบรวมเรื่องราวและหลักฐานอันน่าสนใจของเมืองสุพรรณบุรีไว้ ตั้งแต่ครั้งยุคหินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยแบ่งเรื่องราวออกเป็นห้อง เริ่มตั้งแต่สมัยยุคหิน การกอบกู้บ้านเมือง ยุครุ่งเรืองางประวัติศาสตร์ ห้องแสดงวัตถุโบราณ วิถีชีวิต วัตถุมงคลหายากของสุพรรณ ห้องแสดงศิลปะพื้นบ้านสุพรรณทั้งอดีตมาจนถึงปัจจุบัน แล้วยังมีห้องรวมศิลปินที่มีชื่อเสียงชาวสุพรรณบุรีที่เป็นที่รู้จัก เช่น พุ่มพวง ดวงจันทร์ สุรพล สมบัติเจริญ ห้องยุทธหัตถี ใกล้ ๆ กันยังมี โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก จังหวัดสุพรรณบุรี และหอเกียรติยศ บรรหาร ศิลปอาชา ด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ที่ ตำบลสนามชัย อำเภอเมือง
จังหวัดสุพรรณบุรีถือว่าเป็นหนึ่งในที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ด้วยระยะทางเพียง 100 กว่ากิโลเมตรบนเส้นทางถนนสู่จังหวัดภาคกลางที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นถนนที่ดีที่สุด ราบรื่นและสะดวกที่จะมาเยือนได้ทุกเมื่อ สุพรรณบุรีจึงเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในใจและความทรงจำของผู้ที่ได้มาเยือน ที่เที่ยวสุพรรณบุรีกำลังรอคอยท่านไปสัมผัส