15 ที่เที่ยวพัทลุงในเมือง ธรรมชาติ น้ำตก ภูเขา ทะเล

เที่ยวพัทลุงเมืองเก่าแก่ที่ขนาบข้างด้วยทะเลน้ำเค็มและทะเลสาบน้ำจืดอันแสนสวยงาม เพราะเมื่อเอ่ยถึงจังหวัดพัทลุง สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วต้องถือว่าเป็นเมืองเล็กๆ ที่รอคอยการค้นหาเมืองหนึ่งในปีนี้ เพราะพัทลุงเป็นเมืองที่หากได้มาเยือนจะค้นพบได้ถึงความแตกต่างจากจังหวัดด้ามขวานไทยเราในภาคใต้จังหวัดอื่นๆ ที่เที่ยวพัทลุงมีเสน่ห์มากๆ

ด้วยทำเลที่ตั้งที่ทอดตัวจากเหนือสู่ใต้ โดยมีทะเลสาบสงขลาและเทือกเขานครศรีธรรมราชเป็นทิวกั้นในสองด้านซ้ายขวา ทำให้พัทลุงมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติริมฝั่งและภูเขารวมถึงทะเลสาบ อีกทั้งด้วยความที่เป็นเมืองรุ่งเรืองชุมชนเก่าแก่แต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และล่วงเลยไปจนถึงสมัยศรีวิชัย จึงมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ให้เที่ยวชมกันอีกด้วย พัทลุงจังหวัดเล็กๆ ที่สวยงามจังหวัดนี้เป็นอย่างไรลองไปสัมผัสร่วมกัน

อุทยานแห่งนกน้ำทะเลน้อย

เริ่มกันที่อุทยานแห่งนกน้ำทะเลน้อย แหล่งท่องเที่ยวอันโดดเด่นของพัทลุง ที่นี่เป็นเสมือนเพชรเม็ดงามที่รังสรรค์โดยธรรมชาติเป็นของขวัญกำนัลแด่ผู้มาเยือน เพราะเป็นที่รวมของเหล่านกน้ำนานาชนิดมากกว่า 300 ชนิดอาศัยอยู่ ทั้งนกพื้นถิ่นที่ทำรังอาศัยอยู่ประจำ รวมถึงนกที่อพยพโยกย้ายถิ่นฐานมาตามฤดูกาล เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักดูนกและคนที่รักนกเลยทีเดียว  ทะเลน้อยนั้นเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่สวยงามและกว้างใหญ่  ได้รับประกาศเป็น แรมซาร์ ไซด์ หรือพื้นที่ชุ่มน้ำโลก แห่งแรกในประเทศไทย ความมสนุกของทะเลน้อยยังไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่กิจกรรมดูนกเท่านั้น แต่ยังมีไฮไลท์อยู่ที่การนั่งเรือชมทะเลบัวแดง หรืออีกชื่อเรียกว่าบัวสาย ที่จะบานสะพรั่งในช่วงเช้นตรู่ เต็มแผ่นน้ำอุทยาน หากกต้องการมาชมทะเลดอกบังแดง ช่วงเวลาที่เหมาะมาเยือนมากที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายนของทุกปี

เขาอกทะลุ

ความสวยงามและอัศจรรย์แห่งเขาอกทะลุ หรือที่ชาวบ้านท้องถิ่นเรียกกันติดปากว่า เขาอกลุ อยู่ที่การขึ้นไปบนเขาสูงกว่า 250 เมตร ที่ต้องผ่านการเดินขึ้นตามขั้นบันไดถึง 1066 ขั้น เพื่อชื่นชมทิวทัศน์ของเมืองพัทลุงในมุมมองที่แปลกใหม่และแตกต่างจากที่ใด ๆ เพราะเป็นทิวทัศน์ที่มองผ่านช่องโหล่ของเขาหินปูนขนาดใหญ่ ที่มีจุดศูนย์กลางถึง 10 เมตร ตรงบริเวณช่วงปลายของยอดภูเขา  ด้วยความที่เขาอกทะลุตั้งอยู่กลางเมืองพัทลุงซึ่งรอบด้านเป็นที่ราบไม่มีภูเขาหรือเทือกเขาอื่นใดขวางกั้น จึงมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองพัทลุงได้สวยงามและกระจ่างตา เป็นบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์อีกรสชาติหนึ่งที่ควรค่าแก่การไปสัมผัส  ระหว่างทางเดินขึ้นเขาอกทะลุยังมีจุดชมวิวให้แวะชมภาพความงดงามของ เขาที่อยู่ห่างออกไปคือ เขาชัยบุรีและเขาหัวแตกอีกด้วย เขาอกทะลุตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทลุงมีอาณาเขตครอบคลุมกว้างถึง 3 ตำบลคือ  ตำบล พญาขัน ปรางค์หมู่ และคูหาสวรรค์  เขาอกทะลุเป็นสัญลักษณ์บนตราประจำจังหวัดเป็นเครื่องหมายหนึ่งที่ทำให้นึกถึงจังหวัดพัทลุง และยังเป็นศูนย์รวมความเชื่อและศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของชาวพัทลุงด้วย

วังเจ้าเมืองพัทลุงวังเก่า

วังเจ้าเมืองพัทลุงวังเก่า หมู่เรือนไทยไม้สักสวยงามสีน้ำตาลเข้ม ด้วยสถาปัตยกรรมไทยผสมผสานวัฒนธรรมภาคใต้ เป็นวังเจ้าเมืองหลังเก่าของพัทลุง  สร้างแบบจั่วขวางตะวัน เป็นเรือนแฝดที่มีสามเรือนอยู่ด้วยกัน โดยแบ่งเป็นเรือนนอนสองหลังถูกเชื่อมด้วยลานในระดับยกสูงเท่ากันมีโถงทางเดินทอดไปยังเรือนครัว ในส่วนกลางเป็นลานนั่งพกผ่อนตอนกลางวัน วังเก่าแห่งนี้มีบรรยากาศอันร่มรื่นหากได้มาเยือนจะสัมผัสได้ถึงอดีตอันน่าประทับใจดั่งได้ย้อนกาลเวลา ทั้งข้าวของเครื่องใช้ก็ถูกจัดวางไว้เช่นครั้งสมัยที่ยังคงเป็นวังเจ้าเมืองอยู่ในสมัยก่อนนั้น   วังเจ้าเมืองหลังเก่านี้สร้างขึ้นในรัชสมัยพระพุทธเจ้าหลวงหรือรัชกาลที่ 5  เมื่อพระยาอภัยบริรักษ์  (น้อย จันทโรจน์วงศ์) เป็นเจ้าเมืองพัทลุง ในอดีตใช้เป็นเสมือนที่ว่าการเมืองด้วย  ปัจจุบันยังคงเป็นมรดกสืบทอดของทายาทตระกูล จันทโรจน์วงศ์

วังเจ้าเมืองพัทลุงวังใหม่

นอกจากวังเก่าแล้วยังมีวังเจ้าเมืองพัทลุงวังใหม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทะลุผ่านเข้ามาในบริเวณใกล้เคียงกัน คั่นเพียงสนามหญ้ากว้างอันรื่นรมย์เท่านั้น ลงจากบันไดตรงกำแพงคั่นมา เมื่อเดินตามทางปูนก็จะพบกับไม้ดอกไม้ใบสวยงาม สูดอากาศสดชื่นและวิวสวย ๆ ที่มีกลิ่นไออดีต ก็จะพบกับหมู่เรือนไทยที่สร้างในรูปแบบลักษณะก่ออิฐถือปูนเป็นหมู่เรือนไทยที่มีเรือนไทยรวมอยู่ด้วยกันถึง 5 เรือนหลัง ประกอบด้วย เรือนประธานที่เป็นเรือนคู่แฝด ใช้เป็นเรือนนอนของเจ้าเมืองคือ พระยาอภัยบริรักษ์ ( เนตร จันทโรจน์วงศ์ ) และภรรยาเอก รวมถึงบุตร ตรงกลางระหว่างเรือนแฝดและเรือนอื่น ๆ นั้นเป็นโถงที่ใช้สำหรับว่าราชการ  เรือนอีก 2 เรือนหลังนั้นเป็นเรือนนอนของอนุภรรยาและบุตร ทอดไปสู่เรือนครัวเป็นเรือนหลังสุดท้าย   ตัวหมู่เรือนทั้งหมดมีสีขาวหลังคาเป็นกระเบื้องสีแดง ให้บรรยากาศที่แตกต่างจากหมู่เรือนวังเก่า แต่ก็ยังมีความโบราณน่าค้นหาและมาเยือนสักครั้ง เรือนวังใหม่นั้นตั้งอยู่ริมคลองสงบร่มรื่น ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านเรือนของชาวบ้านเรียงรายอยู่  วังใหม่นั้นเป็นของเจ้าเมืองพัทลุงคนถัดมา ซึ่งเป็นบุตรของเจ้าพระยาอภัยบริรักษ์ เจ้าเมืองคนแรกนั่นเอง ปัจจุบันวังใหม่ อยู่ในความดูแลของกรศิลปากร วังเจ้าเมืองทั้งสองนั้นตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองจังหวัดพัทลุง จึงเดินทางมาเยือนได้โดยสะดวก

อุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า

ทริปท่องเที่ยวในรสชาติแปลกใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติของป่าเขา ที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่าแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็น  ป่าพรหมจรรย์  มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเทือกเขาบริเวณอุทยาน ด้วยที่พักแบบบ้านทาร์ซานที่เรียงรายอยู่ตลอดริมห้วยให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองการพักแบบใกล้ชิดธรรมชาติแนวกึ่งพจญภัย ในเนื้อที่ทั้งหมดถึง 443,750 ไร่ กินพื้นที่ครอบคลุมในส่วนอำเภอต่าง ๆของแต่ละจังหวัด ถึง 3 จังหวัดได้แก่ จังหวัดตรังจังหวัด นครศรีธรรมราช และจังหวัดพัทลุง สำหรับในส่วนที่อยู่ในเขตจังหวัดพัทลุงนั้นอยู่บนเทือกเขาบรรทัด ผืนป่าสุดท้ายแห่งจังหวัดพัทลุง  มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอันพลาดไม่ได้ที่ต้องไปเยือนคือ  ถ้ำมัจฉา น้ำตกเขาคราม และน้ำตกหนานปลิว ในอุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมอาจจะได้พบเจอกับสัตว์ป่าหลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในผืนป่าชุ่มชื่นแห่งนี้ เพราะผืนป่าแห่งนี้อุดมสมบูรณ์และเขียวสดตลอดทั้งปี  มีการสำรวจกันว่าสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ที่นี่มีทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ถึง 60 กว่าชนิด เช่น  สมเสร็จ เสือปลา หมีคน เก้ง เลียงผา ข้างแว่นถิ่นใต้ กระจงควาย ข้างแว่นถิ่นใต้ หนูผีจิ๋ว หมาใน  พญากระรอกดำ พญากระรอกเหลือง อีเห็นลายพาด ค้างคาวปีกถุงเคราดำ  ค้างคาวแม่ไก่ป่าฝน   ชะมดแปลงลายแถบ   นอกจากนั้นยังพบนกที่อาศัยอยู่ถึงกว่า 286 ชนิด  ไม่ว่าจะเป็น นกคัดคูสีทองแดง นกนกเงือกหัวหงอน นกกระเต็นแดง  นกยางไฟหัวสีเทา นกบั้งรอกปากแดง และนกอีกหลายพันธุ์ที่หาชมได้ยากในที่อื่น ๆ  และยังมีสัตว์อีกหลายประเภททั้ง สัตว์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก สัตว์เลื้อยคลาน ปลาชนิดต่าง ๆ และแมลงจำนวนมาก   เขาปู่นั้น นอกจากจะเป็นชื่อของขุนเขาที่เป็นที่มาของชื่ออุทยานแล้ว ชาวบ้านท้องถิ่นยังเชื่อกันว่าที่เขาปู่แห่งนี้ เป็นที่สถิตอยู่ของ ตาปู่ ซึ่งเป็นวิญญาณกึ่งคนธรรพ์ กึ่งเทพ ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือกันด้วย  ที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่าในเขตจังหวัดพัทลุงนั้น อยู่ห่างจากตัวจังหวัดพัทลุงไปประมาณ 37 กม. โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางไปได้ทั้งทางรถโดยสารสาย พัทลุง-เขาปู่-เขื่อน หรือจะเลือกเดินทางมาโดยรถส่วนตัวก็สะดวกและมาถึงได้ไม่ยาก

แอ่งน้ำหูแร่

มาเล่นน้ำท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติบริสุทธิ์ ที่แหล่งน้ำจากเทือกเขาไหลลงสู่คลองที่มีพื้นเบื้องล่างเป็นทรายและโขดหินน้อยใหญ่ จากต้นน้ำในเทือกเขาบรรทัด ผืนป่าสุดท้ายของจังหวัดพัทลุง แอ่งน้ำหูแร่ก็คือคลองธรรมชาติที่มีน้ำใสจากหุบเขานั่นเอง ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือการรับประทานอาหารในร้านอาหารที่มีที่นั่งอยู่ในสายน้ำที่ไหลผ่านให้ได้สัมผัสสายน้ำเย็น ๆ ขณะที่ลิ้รสชาติอาหารและดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติสวยสงบรอบ ๆ ตัว เหมาะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของครอบครัว ความแปลกใหม่ในการนั่งรับประทานอาหารขณะแช่อยู่ในคลองน้ำใสนี้เองที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน หากได้มาถึงจังหวัดพัทลุงไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนแอ่งน้ำหูแร่แห่งนี้   แอ่งน้ำหูแร่ตั้งอยู่ ณ ตำบลท่ามะเดื่อ อำเภอบางแก้ว ห่างจากตัวเมืองพัทลุงไปประมาณ 33 กม.

เกาะสี่ เกาะห้า

การมาเที่ยวยังเกาะสี่และเกาะห้า เริ่มตั้งแต่ความสนุกที่ได้เหมาเรือเข้ามายังเกาะที่ตั้งอยู่ภายในทะเลสาบสงขลาอันสวยงาม เป็นเกาะที่อยู่ในสถานที่ปิดห้อมล้อมไปด้วยหมู่ทิวเขาน้อยใหญ่ เกาะสี่เกาะห้า เป็นชื่อที่มีที่มาจากลักษณะของตัวหมู่เกาะ เมื่อมองมาจากทางทิศใต้และทิศเหนือนั้นจะมองเห็นว่ามีจำนวนเกาะอยู่ 4 เกาะ แต่หากมองจากทิศตะวันตกกลับเห็นว่ามีจำนวนเกาะทั้งหมด 5 เกาะด้วยกัน  ด้วยภูมิประเทศและลักษณะของเกาะที่มีโพรงและถ้ำใหญ่น้อยมากมาย ที่นี่จึงเป็นที่ทำรังของนกนางแอ่นจำนวนมาก เกิดเป็นการทำสัมปทานรังนกมาแต่ในอดีตกว่า 100 ปีทีเดียว เกาะสี่เกาะห้าจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่าเกาะรังนก  จึงเป็นเกาะที่มีความสำคัญในอดีตซึ่งรัชกาลที่ 5 ได้เคยทรงเสด็จประภาส เมื่อมาเยือนยังเกาะสี่เกาะห้าจะได้เห็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ประดิษฐานอยู่พร้อมทั้งมีรอยจารึกของพระปรมาภิไทยย่ออยู่ด้วย  ความเพลิดเพลินอยู่ที่การนั่งเรือผจญภัยเล็ก ๆ ด้วยการสำรวจเกาะรังนกต่าง ๆ ตามหมู่เกาะใหญ่น้อยทั้ง 7 ซึ่งได้แก่ เกาะรูรีม เกาะมวย เกาะท้ายถ้ำดำ เกาะกันตัง เกาะตาโส และเกาะยายโส  วิธีการมายังเกาะก็โดยการเช่าเรือเหมาลำมาจากท่าเรือเทศบาลตำบลปากพยูน  เพราะเกาะสี่เกาะห้านั้น อยู่กลางทะเลสาบสงขลาในเขตตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน

แหลมจองถนน

เสน่ห์แห่งผืนน้ำของชาวประมงที่อาศัยยังแหลมจองถนน อันเป็นแหลมที่ยื่นลงไปกลางทะเลสาบสงขลา ดึงดูดให้ผู้คนมาเยือนและสัมผัสไม่ว่างเว้น ความงามของทิวทัศน์ในทะเลสาบสงขลายามพระอาทิตย์ตกพ้นขอบน้ำนั้นเป็นบรรยากาศที่พลาดไม่ได้ที่จะมาสัมผัสเลยทีเดียว  นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว วิถีชีวิตของชาวประมงทั้งการสร้างโพงพางดักปลากลางทะเลสาบที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้ได้ภาพที่สวยงามแปลกตาเกินบรรยาย ยังมีวิธีจับปลาที่แปลกไม่เหมือนใครให้ได้ชมนั่นก็คือ การล้อมหม่ำเพื่อจับปลาด้วย เมื่อมาถึงทะเลสาบสงขลาจะต้องลองรับประทานอาหารทะเลสด ๆ  นานาชนิด ทั้งปู กุ้ง หอย  ปลาดุกทะเล ปลากระบอก และที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คือ ปลากะพงขาว  การเดินทางมายังแหลมจองถนนก็โดยขับรถจากตัวเมืองพัทลุงมาตามถนนเพชรเกษมจนถึง กม.ที่ 20 เลี้ยวซ้ายตรงบ้านท่านางพรม สี่แยกเขาชัยสน ตรงมาประมาณ 19 กม

น้ำตกไพรวัลย์

ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามของเทือกเขาบรรทัด มีน้ำตกที่เกิดจากต้นน้ำบนภูเขาสูงแห่งป่าของเทือกเขาบรรทัด น้ำตกไพรวัลย์แห่งนี้ห้อมล้อมไปด้วยขุนเขาและไม้ป่านานาพันธุ์  ทำให้เกิดดบรรยากาศร่มรื่นสวยงามเหมาะจะเล่นน้ำ มีทั้งช่วงที่เป็นน้ำตกโตรกผาหินให้ได้เล่น และช่วงที่เป็นลำธารที่มีแอ่งน้ำขังอยู่ให้เด็ก ๆ ได้เล่นน้ำกันอย่างปลอดภัยด้วย รอบบริเวณมีร้านค้าให้บริการทั้ง้งอาหารและสินค้าอื่นๆ  น้ำตกไพรวัลย์อยู่ห่างจากตัวเมืองพัทลุงไปตามเส้นทางถนนเพชรเกษมมประมาณ 32 กม.

หมู่บ้านหัตถกรรมผลิตภัณฑ์กะลา

หากต้องการเที่ยวชมซื้อของขวัญของฝากติดมือกลับบ้านแล้วละก็ สินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดพัทลุงก็คือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัตถุดิบกะลามะพร้าว ด้วยความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จึงทำให้กะลามะพร้าวกลายเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายชยิดที่น่าซื้อหาเลือกชมทีเดียว หมู่บ้านหัตถกรรมผลิตภัณฑ์จากกะลาแห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองพัทลุงมาประมาณ  6 กม. ทางสายไปยังแยกไสยวน

หาดแสนสุขลำปำ

ตามแนวทอดยาวของหาดทรายร่มรื่นขนาบด้วยทิวสนเขียวเป็นแนวยาว หาดแสนสุขลำปำ เป็นชายหาดริมทะเลสาบสงขลา ทะเลสาบอันได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคเอเชีย  มีทางเชื่อมจากชายหาดไปยังเกาะลอย ให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวชมและพักผ่อนหย่อนใจ  ที่เกาะลำปำนั้นห่างจากชายฝั่งประมาณ 40 เมตร  จากริมชายหาดจะมองไปเห็นทิวทัศน์ของเกาะสี่เกาะห้าได้อย่างชัดเจน  ช่วงปากคลองเป็นแหล่งที่สามารถลงเล่นน้ำได้เพราะรอบบริเวณเป็นน้ำตื้น้นเหมาะกับการลงเล่นน้ำ มีร้านอาหารและบังกะโลไว้บริการด้วย

น้ำตกโตนแพรทอง

หากมีโอกาสผ่านมาทางตำบลสินธุ ห่างจากตัวเมืองพัทลุงมาเพียง 30 กว่า กม. ลองแวะเที่ยวน้ำตกโตนแพรทองที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี น้ำตกโตนแพรทองแห่งนี้ยังคงความเป็นธรรมชาติสมบูรณ์และมีความเป็น็นส่วนตัว ร่มรื่นและผู้คนไม่พลุกพล่าน เหมาะที่จะแวะดื่มด่ำกับธรรมชาติท่ามกลางเสียงน้ำกระเซ็นตกกระทบแผ่นหิน ทั่วบริเวณที่เป็นน้ำตกมีแอ่งน้อยใหญ่ให้ได้เลือกลงเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ต้นน้ำของน้ำตกแพรทองก่อกำเนิดมาจากเทือกเขาบรรทัดทองนั่นเอง

วัดเขียนบางแก้ว

วัดเขียนบางแก้วเป็นวัดและโบราณสถานที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดพัทลุงแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศรีวิชัย  โดยสร้างขึ้นในพ.ศ. 1492 คือกว่าพันปีมาแล้ว  ด้วยหลักฐานที่ค้นพบศิลาแดงและวัตถุโบราณหลายชิ้น ทำให้เชื่อได้ว่าบริเวณโดยรอบ ๆ และตัววัดเคยเป็นที่ตั้งเมืองพัทลุงครั้งโบราณ  เมื่อมาสัการะพระพุทธรูปยังวัดเขียนบางแก้วก็จะได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุด้วย พระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์วัดแห่งนี้ ได้อัญเชิญมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 1493 ใกล้กันยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวกันว่าเป็นบ่อน้ำที่ครั้งอดีตเคยใช้น้ำในบ่อนี้ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาด้วย  นอกจากนั้นยังยังมีโบราณสถานจำพวก ศิวลึงค์และฐานโยนีอันเป็นร่องรอยของศาสนาฮินดูที่เผยแพร่มายังดินแดนนี้ในครั้งสมัยศรีวิชัย  ภายในบริเวณวัดยังมีพิพิธภัณฑ์วัดเขียนบางแก้ว จัดแสดงเรื่องราวและโบรราณวัตถุต่าง ๆ ให้ได้เข้าชม โดยสามารถเข้าขอกุญแจพิพิธภัณฑ์เพื่อเข้าชมได้จากท่านเจ้าอาวาสวัด  วัดเขียนบางแก้วตั้งอยู่ที่ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน

อนุสาวรีย์พระยาทุกขราษฎร์ (ช่วย)

ในตัวเมืองพัทลุงนอกจากเขาอกทะลุแล้ว ก็ยังมีสถานที่น่าแวะชมและท่องเที่ยวอีกคือ อนุสาวรีย์พระยาทุกขราษฎร์แห่งนี้ และสถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ถ้ำคูหาสวรรค์ ซึ่งว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13-15  ภายในถ้ำยังประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ มีพระพิมพ์ดินเก่าแก่สมัยศรีวิชัย  ชมจารึกพระปรมาภิไธยย่อของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 และพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี ที่ทรงจารึกไว้ครั้งเสด็จประภาสยังสถานที่แห่งนี้ นอกจากนั้นยังมีถ้ำนางคลอด ที่ภายในจัดแสดงภาพปูนปั้นเรื่องราวพื้นบ้านให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมด้วย อนุสาวรีย์พระยาทุกขราษฎร์นั้น มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1  พระยาทุกขราษฎร์เดิมเป็นพระจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าเลไลย์ เมื่อเกิดศึกสงครามเก้าทัพขึ้น ก็ได้มาช่วยพระยาพัทลุงในการนำชางบ้านเข้าต่อสู้จนได้ชัยชนะ หลังจากที่ได้ลาสิขาบทก็ดั้บแต่งตั้งให้เป็นพระยาทุกขราษฎร์ เป็นผู้ช่วยเจ้าเมืองพัทลุง

คลองปากประ

ความสวยงามของทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่ไม่มีที่ใดจะเหมือนของคลองปากประนั้น คือการได้มาเห็นยอขนาดใหญ่มากมายเรียงรายอยู่ในผืนน้ำบริเวณคลองปากประนี่เอง ยิ่งในยามพระอาทิตย์ขึ้น ยิ่งเป็นภาพที่สวยงามเป็นอย่างมาก สามเกตุที่บริเวณนี้มีการยกยอขนาดใหญ่กันเป็นจำนวนมากก็เพราะ คลองปากประเป็นจุดรวมของแม่น้ำหลายสายที่มาบรรจบกัน ทำให้มีสัตว์น้ำมากมายมาชุมนุมกันในบริเวณนี้นั่นเอง นักท่องเที่ยวมากมายนิยมมาถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ ของคลองปากประเพราะได้ภาพที่สวยแตกต่างจากที่อื่น อีกทั้งบรรยากาศก็สดชื่นด้วย ที่นี่เป็นแหล่งป่าปรุผืนสุดท้ายของจังหวัดพัทลุง มีป่าเสม็ดขาวและสวนพฤษศาสตร์บริเวณใกล้เคียงกันให้ได้แวะเที่ยวชมอีกด้วย หากต้องการจะหาที่พักก็มีรีสอร์ทเปิดบริการอยู่หลายแห่ง คลองปากประตั้งอยู่ที่อำเภอควนขนุน

มาเที่ยวพัทลุง กันเถอะ! จังหวัดพัทลุงเป็นสถานที่ที่ไม่ว่าใครหากได้มาเยือนจะรู้สึกได้ว่าเป็นการใช้ช่วงวันเวลาแห่งความสุขและสีสันวันหยุดอย่างคุ้มค่าทีเดียว ที่เที่ยวพัทลุงและที่เที่ยวนครศรีธรรมราชรอการมาของคุณ